
หลายวัฒนธรรมทั่วโลกมีชื่อเรียกดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเป็นของตัวเอง และการจดจำชื่อเหล่านี้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
เพื่อการสื่อสารทั่วโลกที่ชัดเจน สหพันธ์ดาราศาสตร์นานาชาติ (International Astronomical Union: IAU) ได้เริ่มกำหนดชื่อดาวฤกษ์ที่เป็นมาตรฐานขึ้น
ในภาพนี้คือ 25 ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้ายามค่ำคืน โดยแสดงด้วยสีจริงตามที่มนุษย์มองเห็นในปัจจุบัน พร้อมด้วยชื่อที่ได้รับการรับรองจาก IAU และความหมายของชื่อที่น่าสนใจ
1. ซีริอุส (Sirius)
มาจากภาษาละตินแปลว่า “ผู้แผดเผา” (the scorcher) หรือ “เจิดจ้า” เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน
2. คาโนปุส (Canopus)
มาจากภาษากรีก โดยเชื่อว่าเป็นชื่อของ “คนคัดท้ายเรืออาร์โก” (pilot of the ship Argo)
3. ไรจิล เคนทอรัส (Rigil Kentaurus หรือ Alpha Centauri)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “เท้าของคนครึ่งม้า” (foot of the centaur)
4. อาร์กทูรุส (Arcturus)
มาจากภาษากรีกแปลว่า “ผู้พิทักษ์หมี” (guardian of the bear) ซึ่งหมายถึงกลุ่มดาวหมีใหญ่ (Ursa Major) และกลุ่มดาวหมีเล็ก (Ursa Minor)
5. เวกา (Vega)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “ตก” (falling) หรือ “นกอินทรี/แร้ง” (eagle or vulture)
6. คาเพลลา (Capella)
มาจากภาษาละตินแปลว่า “แพะน้อย” (little she-goat)
7. ไรเจล (Rigel)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “เท้า” (foot)
8. โพรซิออน (Procyon)
มาจากภาษากรีกแปลว่า “ก่อนสุนัข” (before the dog) ซึ่งหมายถึงว่าดาวดวงนี้ขึ้นมาก่อนดาวสุนัข)
9. อะเคอร์นาร์ (Achernar)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “ปลายแม่น้ำ” (river’s end)
10. บีเทลจุส (Betelgeuse)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “ไหล่ของยักษ์” (armpit of the great one)
11. ฮาดาร์ (Hadar หรือ Agena)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “พื้นดิน” (ground) ส่วนชื่อ Agena มาจากภาษาละตินแปลว่า “เข่า” (knee)
12. อัลแตร์ (Altair)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “นกอินทรี” (the eagle)
13. เอครักซ์ (Acrux)
มาจากภาษากรีก เป็นการผสมผสานคำว่า “อัลฟา” (alpha) และ “ครุกซ์” (crux) ซึ่งหมายถึงดาวอัลฟาของกลุ่มดาวกางเขนใต้
14. อัลเดบารัน (Aldebaran)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “ผู้ตาม” (the follower) เนื่องจากเป็นดาวที่ขึ้นตามหลังกลุ่มดาวลูกไก่
15. แอนทาเรส (Antares)
มาจากภาษากรีกแปลว่า “คู่แข่งของดาวอังคาร” (rival to Mars) เนื่องจากมีสีแดงคล้ายดาวอังคาร
16. สไปกา (Spica)
มาจากภาษาละตินแปลว่า “รวงข้าวสาลี” (ear of wheat)
17. พอลลักซ์ (Pollux)
มาจากภาษากรีก โดยเป็นชื่อของ “พี่น้องฝาแฝดอมตะแห่งเจมินี” (immortal Gemini twin brother) ในตำนานกรีก
18. โฟมัลฮาวท์ (Fomalhaut)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “ปากของปลา” (the mouth of the fish)
19. เดเนบ (Deneb)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “หาง” (tail) เนื่องจากเป็นดาวที่อยู่ตรงตำแหน่งหางของกลุ่มดาวหงส์
20. มิโมซา (Mimosa หรือ Becrux)
มาจากภาษาละตินแปลว่า “นักแสดง” (actor)
21. เรกูลัส (Regulus)
มาจากภาษากรีกแปลว่า “กษัตริย์น้อย” (little king)
22. อาดารา (Adhara)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “หญิงพรหมจารี” (the virgins)
23. คาสตอร์ (Castor)
มาจากภาษากรีก โดยเป็นชื่อของ “พี่น้องฝาแฝดผู้ตายได้แห่งเจมินี” (mortal Gemini twin brother) ในตำนานกรีก คู่กับ Pollux
24. กาครักซ์ (Gacrux)
มาจากการผสมผสานคำว่า “แกมมา” (gamma) และ “ครุกซ์” (crux) ซึ่งหมายถึงดาวแกมมาของกลุ่มดาวกางเขนใต้
25. เชาลา (Shaula)
มาจากภาษาอาหรับแปลว่า “เหล็กใน” (stinger) เนื่องจากเป็นดาวที่อยู่ตรงตำแหน่งเหล็กในของกลุ่มดาวแมงป่อง
เครดิตภาพ: ตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์
- 25 Brightest Stars in the Night Sky