วัตถุจากต่างระบบสุริยะที่เดินทางผ่านเข้ามาในย่านอวกาศของเราอย่าง 3I/ATLAS กำลังเผยพฤติกรรมสุดเซอร์ไพรส์หลังจากการสังเกตการณ์ล่าสุดขณะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด โดยนักวิทยาศาสตร์พบว่ามันมีความสว่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีน้ำเงินจัด ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่คาดการณ์ไว้และจากการสังเกตการณ์ก่อนหน้า
ภาพถ่ายชุดใหม่ของวัตถุระหว่างดาว (Interstellar Object) นามว่า 3I/ATLAS ที่โคจรเข้าสู่จุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด (Perihelion) เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ได้แสดงให้เห็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตะลึง วัตถุนี้สว่างขึ้นอย่างฉับพลันและมีสีที่น้ำเงินกว่าดวงอาทิตย์อย่างชัดเจน ซึ่งการค้นพบนี้ได้ถูกบันทึกไว้ด้วยเครื่องมือพิเศษที่โคจรอยู่ในอวกาศ แม้ว่าวัตถุจะถูกซ่อนอยู่ด้านหลังดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลกในขณะนั้น
เนื่องจากในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตำแหน่งของ 3I/ATLAS อยู่ในแนวเดียวกับดวงอาทิตย์เมื่อเทียบกับโลก ทำให้กล้องโทรทรรศน์บนพื้นโลกไม่สามารถสังเกตการณ์ได้ แต่โชคดีที่ตำแหน่งนี้ทำให้มันอยู่ในขอบเขตการมองเห็นของเครื่องมือสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ที่โคจรอยู่รอบ ๆ เช่น
- STEREO-A (Solar TErrestrial RElations Observatory) เป็นยานอวกาศที่โคจรเร็วกว่าโลกเล็กน้อยและใช้กล้อง HI1 และ COR2 ในการบันทึกภาพ
- SOHO (SOlar and Heliospheric Observatory) ยานที่โคจรอยู่ที่จุดลากรันจ์ที่ 1 (L1) ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ โดยใช้เครื่องมือ LASCO (Large Angle and Spectrometric COronagraph)
- GOES-19 ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาที่โคจรค้างฟ้า ซึ่งติดตั้งเครื่องมือ CCOR-1 (Compact CORonagraph 1)
การสังเกตการณ์ที่ได้จากเครื่องมือเหล่านี้ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม 2568 ชี้ให้เห็นว่ารอบ ๆ 3I/ATLAS มีแสงเรืองแผ่ออกไปกว้างถึง 300,000 กิโลเมตร เทียบได้กับขนาดของกลุ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขนาดใหญ่ที่เคยถูกตรวจจับได้ก่อนหน้านี้
ข้อมูลที่น่าประหลาดใจที่สุดคือการวัดแสงที่พบว่า 3I/ATLAS มีสีน้ำเงินจัดกว่าดวงอาทิตย์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตรงกันข้ามกับการสังเกตการณ์ในช่วงแรกที่พบว่าเป็นสีแดง
โดยปกติแล้ว วัตถุที่โคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์และมีฝุ่นรอบ ๆ มักจะสะท้อนแสงอาทิตย์ออกมาเป็นสีแดง เนื่องจากฝุ่นมีแนวโน้มทำให้แสงที่กระเจิงเป็นสีแดงขึ้น และอุณหภูมิของวัตถุเองก็ควรจะเย็นกว่าพื้นผิว (Photosphere) ของดวงอาทิตย์มาก ซึ่งจะทำให้วัตถุมีสีออกไปทางแดงเช่นกัน
การปรากฏเป็นสีน้ำเงินอย่างโดดเด่นจึงเป็นความผิดปกติครั้งที่ 9 ของวัตถุระหว่างดาวที่แปลกประหลาดนี้ และอาจบ่งชี้ว่ามีการปลดปล่อยแสงสว่างออกมาจากตัววัตถุเองที่มีความร้อนสูง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการปล่อยแสง (Emission) ที่เข้ามามีส่วนสำคัญต่อความสว่างโดยรวมที่มองเห็นได้
นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่า สาเหตุของการสว่างวาบอย่างรวดเร็วของ 3I/ATLAS ที่เกินกว่าอัตราความสว่างของดาวหางในกลุ่มเมฆออร์ต (Oort Cloud) ทั่วไปที่ระยะทางใกล้เคียงกันยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน
หลังจากการเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในเดือนตุลาคมนี้ 3I/ATLAS จะเริ่มสามารถสังเกตได้จากโลกอีกครั้งในช่วงสนธยา และจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ซึ่งการสังเกตการณ์ภาคพื้นดินและจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศที่ทรงพลังอย่างกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) และกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) จะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาลักษณะของ 3I/ATLAS ได้อย่างละเอียด ข้อมูลใหม่ยังชี้ว่าเมื่อมันออกมาจากจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดแล้ว มันอาจจะสว่างกว่าเดิม
ปริศนาเกี่ยวกับแหล่งพลังงานที่ร้อนกว่าดวงอาทิตย์ หรือกลไกเบื้องหลังการปล่อยแสงสีน้ำเงินที่ผิดปกตินี้ ทำให้ 3I/ATLAS กลายเป็นหนึ่งในวัตถุอวกาศที่น่าจับตามองที่สุดแห่งปี
ข้อมูลอ้างอิง: Avi Loeb
- 3I/ATLAS Rapidly Brightens and Gets Bluer than the Sun Near Perihelion