

8 พฤษภาคม 2025
Apollo 12 การลงจอดอย่างแม่นยำและการสำรวจที่ขยายขอบเขต
สารานุกรมดาราศาสตร์ . โครงการอะพอลโล Article
โครงการอะพอลโล 12 (Apollo 12) เป็นภารกิจที่มีลูกเรือขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration: NASA) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกส่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) และประสบความสำเร็จในการนำนักบินอวกาศ 2 คน ลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) ภารกิจนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสำรวจดวงจันทร์ เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลงจอดอย่างแม่นยำ และยังได้ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ขยายขอบเขตความรู้ของเราเกี่ยวกับดาวบริวารที่ใกล้ที่สุดของโลกอีกด้วย
ลูกเรือผู้กล้าหาญ
ลูกเรือของอะพอลโล 12 ประกอบด้วยนักบินอวกาศผู้มากประสบการณ์ 3 คน ได้แก่
- ชาร์ลส์ “พีท” คอนราด จูเนียร์ (Charles “Pete” Conrad Jr.)
ผู้บัญชาการภารกิจ (Commander) นักบินอวกาศมากประสบการณ์ที่เคยบินในโครงการเจมินี (Gemini) มาแล้วสองครั้ง และเป็นมนุษย์คนที่สามที่ได้เหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ - ริชาร์ด “ดิค” กอร์ดอน จูเนียร์ (Richard “Dick” Gordon Jr.)
นักบินโมดูลบังคับการ (Command Module Pilot) ผู้ซึ่งโคจรรอบดวงจันทร์อยู่ในยานแม่ “แยงกีคลิปเปอร์” (Yankee Clipper) และเคยบินในโครงการเจมินีมาแล้วหนึ่งครั้ง - อลัน แอล. บีน (Alan L. Bean)
นักบินโมดูลลงจอด (Lunar Module Pilot) ผู้ซึ่งได้ลงจอดบนดวงจันทร์พร้อมกับคอนราด และเป็นนักบินอวกาศหน้าใหม่ในขณะนั้น
เป้าหมายหลักของภารกิจ
อะพอลโล 12 มีเป้าหมายหลักที่สำคัญหลายประการ ได้แก่
- การลงจอดอย่างแม่นยำ
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการลงจอดใกล้กับยานสำรวจอัตโนมัติ “เซอร์เวเยอร์ 3” (Surveyor 3) ซึ่งลงจอดบนดวงจันทร์เมื่อปี พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) เพื่อให้นักบินอวกาศสามารถไปเก็บชิ้นส่วนของยานเซอร์เวเยอร์ 3 กลับมายังโลกได้ ซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาผลกระทบของการอยู่ในสภาพแวดล้อมของดวงจันทร์เป็นเวลานาน - การสำรวจทางวิทยาศาสตร์
ติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ชุดใหม่ที่มีชื่อว่า “อะพอลโล ลูนาร์ เซอร์เฟซ เอ็กซ์เพอริเมนต์ แพ็กเกจ” (Apollo Lunar Surface Experiments Package: ALSEP) เพื่อทำการทดลองระยะยาวบนพื้นผิวดวงจันทร์ ซึ่งรวมถึงการวัดแผ่นดินไหวบนดวงจันทร์ (moonquake) สนามแม่เหล็ก และอนุภาคสุริยะ - การเก็บตัวอย่างหินและดินจากดวงจันทร์
รวบรวมตัวอย่างหินและดินจากบริเวณที่ลงจอดเพื่อนำกลับมาศึกษาบนโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีและประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของดวงจันทร์ - การทดสอบอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่
ทดสอบอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จำเป็นสำหรับการสำรวจดวงจันทร์ในอนาคต
การเดินทางสู่ดวงจันทร์และการลงจอด
ยานอวกาศอะพอลโล 12 ถูกปล่อยขึ้นจากแหลมคะแนเวอรัล (Cape Canaveral) รัฐฟลอริดา (Florida) โดยจรวดแซตเทิร์น 5 (Saturn V) การเดินทางสู่ดวงจันทร์เป็นไปอย่างราบรื่น แต่เมื่อยานอะพอลโล 12 เข้าสู่วงโคจรรอบดวงจันทร์ โมดูลลงจอด “อินเทรพิด” (Intrepid) ได้แยกตัวออกจากยานแม่ “แยงกีคลิปเปอร์” เพื่อนำคอนราดและบีนลงสู่พื้นผิวดวงจันทร์
การลงจอดเป็นไปอย่างแม่นยำอย่างน่าทึ่ง โดยยานอินเทรพิดลงจอดห่างจากยานเซอร์เวเยอร์ 3 เพียงประมาณ 183 เมตร (600 ฟุต) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างมากในเทคโนโลยีการนำร่องและการควบคุมยานอวกาศ
การสำรวจบนพื้นผิวดวงจันทร์
คอนราดและบีนใช้เวลาประมาณ 32.5 ชั่วโมงบนพื้นผิวดวงจันทร์ โดยได้ทำการเดินสำรวจนอกยานอวกาศ (Extravehicular Activity: EVA) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “การเดินบนดวงจันทร์” สองครั้ง รวมระยะเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 45 นาที ในระหว่างการเดินสำรวจ พวกเขาได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญหลายอย่าง ได้แก่
- การติดตั้ง ALSEP: นักบินอวกาศได้ติดตั้งชุดอุปกรณ์ ALSEP ซึ่งประกอบด้วยเครื่องวัดแผ่นดินไหว เครื่องวัดสนามแม่เหล็ก เครื่องตรวจวัดไอออนสุริยะ และเครื่องตรวจวัดฝุ่นละอองในอวกาศ อุปกรณ์เหล่านี้ทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปีหลังจากที่นักบินอวกาศเดินทางกลับโลก และได้ให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีค่ามากมาย
- การเยี่ยมชมยานเซอร์เวเยอร์ 3: คอนราดและบีนได้เดินไปยังยานเซอร์เวเยอร์ 3 และเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ของยานกลับมา ซึ่งรวมถึงกล้องโทรทัศน์และชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมบนดวงจันทร์
- การเก็บตัวอย่างหินและดิน: นักบินอวกาศได้เก็บตัวอย่างหินและดินจากบริเวณต่างๆ รอบจุดลงจอด ซึ่งมีทั้งหินบะซอลต์ (basalt) ที่มีอายุเก่าแก่ และดินที่มีลักษณะเป็นฝุ่นละเอียด (regolith) ตัวอย่างเหล่านี้ได้ถูกนำกลับมาศึกษาอย่างละเอียดโดยนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก
- การถ่ายภาพและวิดีโอ: มีการบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอจำนวนมากเพื่อเป็นหลักฐานและใช้ในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์
การเดินทางกลับสู่โลก
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจบนพื้นผิวดวงจันทร์ คอนราดและบีนได้กลับขึ้นสู่ยานอินเทรพิด และทำการเชื่อมต่อกับยานแม่ “แยงกีคลิปเปอร์” ที่มีกอร์ดอนรออยู่ในวงโคจรรอบดวงจันทร์ โมดูลลงจอดถูกทิ้งไว้ในวงโคจรรอบดวงจันทร์ และนักบินอวกาศทั้งสามได้เดินทางกลับสู่โลกด้วยโมดูลบังคับการ พวกเขากลับถึงโลกอย่างปลอดภัย โดยลงจอดในมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ocean) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969)
ความสำคัญและผลกระทบของอะพอลโล 12
โครงการอะพอลโล 12 ประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายทั้งหมดที่ตั้งไว้ และมีผลกระทบอย่างมากต่อความเข้าใจของเราเกี่ยวกับดวงจันทร์และอวกาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
- การแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลงจอดอย่างแม่นยำ: ความสำเร็จในการลงจอดใกล้กับยานเซอร์เวเยอร์ 3 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการนำร่องและการควบคุมยานอวกาศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสำรวจดวงจันทร์ในอนาคต
- ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีค่า: ข้อมูลที่ได้จากชุดอุปกรณ์ ALSEP และตัวอย่างหินและดินจากดวงจันทร์ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างภายใน องค์ประกอบทางเคมี และประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของดวงจันทร์
- การศึกษาผลกระทบของสภาพแวดล้อมบนดวงจันทร์: การนำชิ้นส่วนของยานเซอร์เวเยอร์ 3 กลับมาศึกษาช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงผลกระทบของการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงของดวงจันทร์เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการออกแบบยานอวกาศและอุปกรณ์ในอนาคต
- การสร้างแรงบันดาลใจ: ความสำเร็จของอะพอลโล 12 เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วโลก และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมนุษย์ในการสำรวจและค้นพบสิ่งใหม่ๆ
บทสรุป
โครงการอะพอลโล 12 เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของการสำรวจอวกาศของมนุษยชาติ ด้วยการลงจอดที่แม่นยำ การติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย และการเก็บตัวอย่างที่มีค่า ภารกิจนี้ได้ขยายขอบเขตความรู้ของเราเกี่ยวกับดวงจันทร์ไปอย่างมาก และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการสำรวจดาวเคราะห์อื่นๆ ในอนาคต ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของลูกเรืออะพอลโล 12 จะถูกจดจำตลอดไปในฐานะผู้บุกเบิกการสำรวจดวงจันทร์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
You may also like
จำนวนเข้าชม: 15
เรื่องยอดนิยม
9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (3,576)
บัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,214)
จีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,776)
ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,727)
SpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,577)