Skip to content
SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

ข่าวอวกาศ ความรู้ดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • กล้องโทรทรรศน์อวกาศ
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
YouTube: SPACEMAN
  • Home
  • ทั่วไป
  • IMAP และ CGO คู่หูภารกิจใหม่ ไขปริศนาลมสุริยะและเกราะป้องกันของโลก
  • ทั่วไป

IMAP และ CGO คู่หูภารกิจใหม่ ไขปริศนาลมสุริยะและเกราะป้องกันของโลก

มนุษย์อวกาศ 9 กันยายน 2025
IMAP

เตรียมตัวนับถอยหลังสู่การเดินทางครั้งสำคัญ! ในวันที่ 23 กันยายน 2568 องค์การนาซา มีกำหนดส่งยานอวกาศสองลำขึ้นสู่ห้วงอวกาศพร้อมกันในภารกิจที่จะปฏิวัติความเข้าใจของเราเกี่ยวกับดวงอาทิตย์และปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อระบบสุริยะ นั่นคือยาน “ไอแมป” (Interstellar Mapping and Acceleration Probe: IMAP) และ”คาร์รัทเธอร์ส จีโอโคโรนา” (Carruthers Geocorona Observatory)

ยานอวกาศทั้งสองลำจะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศพร้อมกันด้วยจรวดฟอลคอน 9 ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ จากศูนย์อวกาศเคนเนดี ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อเดินทางไปยังจุดลากรานจ์ 1 (Lagrange point 1) หรือ L1 ซึ่งเป็นบริเวณที่แรงดึงดูดระหว่างโลกและดวงอาทิตย์มีความสมดุล ทำให้ยานอวกาศสามารถโคจรรอบดวงอาทิตย์ไปพร้อมกับโลกได้โดยใช้พลังงานน้อยที่สุด ตำแหน่งนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์และสภาพแวดล้อมในอวกาศอย่างต่อเนื่อง

IMAP: นักทำแผนที่แห่งห้วงอวกาศระหว่างดวงดาว

ภารกิจหลักของยานไอแมป คือการศึกษา เฮลิโอสเฟียร์ (heliosphere) หรือฟองแม่เหล็กขนาดยักษ์ที่เกิดจากลมสุริยะ (solar wind) ซึ่งเป็นกระแสของอนุภาคมีประจุที่ดวงอาทิตย์ปลดปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง เฮลิโอสเฟียร์นี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันระบบสุริยะจากรังสีคอสมิกพลังงานสูงที่เป็นอันตรายจากนอกระบบสุริยะ

ยานไอแมปจะทำหน้าที่เปรียบเสมือนนักทำแผนที่ยุคใหม่ โดยจะเก็บข้อมูลและสร้างแผนที่ของอนุภาคพลังงานเป็นกลาง (energetic neutral atoms: ENAs) ที่เดินทางมาจากบริเวณรอยต่อระหว่างเฮลิโอสเฟียร์กับมวลสารระหว่างดาว (interstellar medium) การศึกษานี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างลมสุริยะและอวกาศระหว่างดวงดาวได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การไขปริศนาว่าอนุภาคต่างๆ ในอวกาศถูกเร่งให้มีพลังงานสูงได้อย่างไร

นอกจากนี้ ยานไอแมปยังติดตั้งเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ถึง 10 ชิ้น เพื่อใช้ในการตรวจวัดอนุภาคต่างๆ ในอวกาศอย่างละเอียด ตั้งแต่อนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ สนามแม่เหล็กระหว่างดาวเคราะห์ ไปจนถึงฝุ่นคอสมิกที่หลงเหลือจากการระเบิดของดาวฤกษ์ ข้อมูลที่ได้จากยานไอแมปไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มพูนความรู้พื้นฐานทางฟิสิกส์สุริยะ แต่ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพยากรณ์ สภาพอวกาศ (space weather) ที่อาจส่งผลกระทบต่อดาวเทียม นักบินอวกาศ และแม้กระทั่งโครงข่ายไฟฟ้าบนโลก

Carruthers Geocorona Observatory: ผู้พิทักษ์ชั้นบรรยากาศโลก

ในขณะที่ยานไอแมปมุ่งความสนใจไปยังขอบของระบบสุริยะ คาร์รัทเธอร์ส จีโอโคโรนา จะทำหน้าที่สังเกตการณ์โลกของเราจากระยะไกล โดยมีเป้าหมายหลักคือการศึกษา จีโอโคโรนา (geocorona) ซึ่งเป็นส่วนนอกสุดของชั้นบรรยากาศโลกที่แผ่กระจายออกไปในอวกาศและเรืองแสงในย่านรังสีอัลตราไวโอเลต

คาร์รัทเธอร์ส จีโอโคโรนา ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร. จอร์จ คาร์รัทเธอร์ส (Dr. George Carruthers) นักฟิสิกส์อวกาศผู้บุกเบิกการถ่ายภาพโลกในย่านรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในภารกิจอะพอลโล 16 (Apollo 16) ยานคาร์รัทเธอร์สจะสานต่อภารกิจของ ดร.คาร์รัทเธอร์ส โดยจะทำการถ่ายภาพและศึกษาการเปลี่ยนแปลงของจีโอโคโรนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่าชั้นบรรยากาศส่วนนอกสุดของโลกมีรูปร่าง ขนาด และความหนาแน่นเป็นอย่างไร และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมจากดวงอาทิตย์อย่างไรบ้าง

ข้อมูลจากยานคาร์รัทเธอร์สจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างแบบจำลองของชั้นบรรยากาศโลกได้แม่นยำยิ่งขึ้น และเข้าใจถึงกระบวนการที่อนุภาคจากลมสุริยะส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องโลกและกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ในอวกาศ

การปล่อยยานอวกาศสองลำขึ้นไปพร้อมกันในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการฟิสิกส์สุริยะ (heliophysics) ข้อมูลที่ได้จากทั้งยานไอแมปและคาร์รัทเธอร์สจะทำงานเสริมกัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถมองเห็นภาพรวมของอิทธิพลของดวงอาทิตย์ที่มีต่อระบบสุริยะได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ใจกลางระบบสุริยะไปจนถึงขอบเขตที่ไกลที่สุด และยังช่วยให้เราเข้าใจถึง “บ้าน” ของเราในจักรวาลได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย


ข้อมูลอ้างอิง: NASA Science

  • Interstellar Mapping and Acceleration Probe (IMAP)

About the Author

มนุษย์อวกาศ

Administrator

Visit Website View All Posts
จำนวนเข้าชม: 35

Post navigation

Previous: ยานเพอร์เซเวียแรนซ์ เผชิญหน้ากับ “เมกาเบรกเซีย” ไขปริศนาอดีตดาวอังคารที่ซับซ้อนและน่าสนใจ
Next: สำรวจดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ ‘แทรปปิสต์-1 อี’ และความหวังในการค้นหาสัญญาณของบรรยากาศ

เรื่องน่าอ่าน

WISPIT 2
  • ทั่วไป

หลักฐานชิ้นใหม่! นักวิจัยเผยภาพน่าตื่นเต้น ดาวเคราะห์แรกเกิดกำลังกินจานฝุ่นรอบดาวฤกษ์

มนุษย์อวกาศ 26 สิงหาคม 2025
Bharatiya Antariksh Station
  • ทั่วไป

อินเดียเปิดตัวแบบจำลองสถานีอวกาศแห่งแรก ตั้งเป้าส่งโมดูลแรกขึ้นสู่วงโคจรปี 2028

มนุษย์อวกาศ 23 สิงหาคม 2025
Brightest Radio Flash NGC4141
  • ทั่วไป

นักดาราศาสตร์ค้นพบสัญญาณคลื่นวิทยุ ที่สว่างที่สุดจากกาแล็กซีเพื่อนบ้าน

มนุษย์อวกาศ 23 สิงหาคม 2025

FB: SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SpacemanFB

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (6,866)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,826)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (3,015)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,981)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,893)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.