

12 พฤษภาคม 2025
Apollo 15 การผจญภัยสำรวจดวงจันทร์ที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์
สารานุกรมดาราศาสตร์ . โครงการอะพอลโล Article
โครงการ Apollo (อะพอลโล) ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration: NASA) เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการสำรวจอวกาศโดยมนุษย์ ด้วยเป้าหมายอันท้าทายในการส่งมนุษย์ไปลงจอดบนดวงจันทร์และนำพวกเขากลับมายังโลกอย่างปลอดภัย ภารกิจ Apollo 15 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญอีกครั้งหนึ่งของโครงการนี้ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ที่ทะเยอทะยานกว่าภารกิจก่อนหน้า
อะพอลโล 15 (Apollo 15) ถูกปล่อยขึ้นสู่ห้วงอวกาศในวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) จากศูนย์อวกาศเคนเนดี (Kennedy Space Center) รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยมีลูกเรือผู้กล้าหาญ 3 คน ได้แก่ ผู้บัญชาการ เดวิด อาร์. สก็อตต์ (David R. Scott), นักบินยานบังคับการ อัลเฟรด เอ็ม. วอร์เดน (Alfred M. Worden) และนักบินยานลงจอดบนดวงจันทร์ เจมส์ บี. เออร์วิน (James B. Irwin)
เป้าหมายหลักของภารกิจ
Apollo 15 เป็นภารกิจแรกในชุด “J missions” ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานบนพื้นผิวดวงจันทร์ให้ยาวนานขึ้น และเพิ่มศักยภาพในการเคลื่อนที่สำรวจพื้นที่กว้างขวางยิ่งขึ้น เป้าหมายหลักของภารกิจนี้ ได้แก่
- สำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ในบริเวณที่เรียกว่า แฮดลีย์-อะเพนไนน์ (Hadley-Apennine), ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศ รวมถึงภูเขาสูงและร่องลึก
- ติดตั้งและเปิดใช้งานชุดอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์บนพื้นผิวดวงจันทร์ หรือ อะพอลโล ลูนาร์ เซอร์เฟซ เอ็กซ์เพอริเมนต์ แพ็กเกจ (Apollo Lunar Surface Experiments Package: ALSEP)
- ประเมินขีดความสามารถของอุปกรณ์ Apollo ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานบนพื้นผิวดวงจันทร์ที่ยาวนานขึ้น การปฏิบัติภารกิจนอกยานอวกาศ (Extravehicular Activity: EVA) ที่เพิ่มขึ้น และความสามารถในการเคลื่อนที่บนพื้นผิว
- ทำการสำรวจทางธรณีวิทยา เก็บตัวอย่างดินและหินดวงจันทร์ เพื่อศึกษาองค์ประกอบและประวัติความเป็นมาของดวงจันทร์
- ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ทั้งบนพื้นผิวดวงจันทร์และในวงโคจรรอบดวงจันทร์
ความโดดเด่นของ Apollo 15
สิ่งที่ทำให้ Apollo 15 แตกต่างจากภารกิจ Apollo ก่อนหน้าอย่างชัดเจนคือ การนำ ยานสำรวจดวงจันทร์แบบมีล้อ หรือ ลูนาร์ โรฟวิง วิฮิเคิล (Lunar Roving Vehicle: LRV) ไปใช้งานเป็นครั้งแรก ยาน LRV หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Moon Buggy” (มูน บักกี) นี้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสี่ล้อที่ช่วยให้นักบินอวกาศสามารถเดินทางสำรวจพื้นที่ห่างไกลจากยานลงจอดได้มากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถเก็บตัวอย่างทางธรณีวิทยาจากหลากหลายตำแหน่ง และทำการสำรวจภูมิประเทศได้อย่างละเอียด
นอกจากนี้ Apollo 15 ยังสร้างสถิติใหม่หลายประการในการเดินทางอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุม ได้แก่
- น้ำหนักบรรทุกที่หนักที่สุดในวงโคจรรอบดวงจันทร์ ประมาณ 48,535 กิโลกรัม
- ระยะทางไกลที่สุดที่เดินทางบนพื้นผิวดวงจันทร์จากยานลงจอด ประมาณ 28 กิโลเมตร
- จำนวนครั้งของการปฏิบัติภารกิจนอกยานอวกาศบนพื้นผิวดวงจันทร์มากที่สุด (3 ครั้ง)
- ระยะเวลารวมของการปฏิบัติภารกิจนอกยานอวกาศบนพื้นผิวดวงจันทร์นานที่สุด
การปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์
นักบินอวกาศ สก็อตต์และเออร์วิน ใช้เวลาอยู่บนพื้นผิวดวงจันทร์นานถึง 66 ชั่วโมง 54 นาที โดยได้ปฏิบัติภารกิจนอกยานอวกาศรวม 3 ครั้ง เป็นเวลารวมประมาณ 18 ชั่วโมงครึ่ง พวกเขาได้ขับยาน LRV สำรวจบริเวณแฮดลีย์-อะเพนไนน์ ซึ่งรวมถึง ร่องแฮดลีย์ (Hadley Rille) และเชิงเขาอะเพนไนน์ (Apennine Mountains) ซึ่งเป็นแนวเขาสูงชันที่ทอดตัวยาว พวกเขาได้เก็บตัวอย่างหินและดินที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยามากมาย ซึ่งรวมถึงหินบะซอลต์ (basalt) ที่มีอายุเก่าแก่ และตัวอย่างที่เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของเปลือกดวงจันทร์ยุคแรกเริ่ม
ขณะที่สก็อตต์และเออร์วินปฏิบัติภารกิจบนพื้นผิวดวงจันทร์ วอร์เดนได้โคจรรอบดวงจันทร์บนยานบังคับการ “เอนเดฟเวอร์” (Endeavour) เขาได้ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ จากวงโคจร รวมถึงการถ่ายภาพพื้นผิวดวงจันทร์ด้วยกล้องความละเอียดสูง และปล่อยดาวเทียมขนาดเล็ก (Particles and Fields Subsatellite) เพื่อศึกษาอนุภาคและสนามแม่เหล็กในอวกาศใกล้ดวงจันทร์
การทดลองทางวิทยาศาสตร์
Apollo 15 ได้นำอุปกรณ์และทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย ทั้งบนพื้นผิวดวงจันทร์และในวงโคจร ตัวอย่างการทดลองที่สำคัญ ได้แก่
- อะพอลโล ลูนาร์ เซอร์เฟซ เอ็กซ์เพอริเมนต์ แพ็กเกจ (ALSEP): ชุดอุปกรณ์นี้ประกอบด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องวัดความร้อนใต้พื้นผิวดวงจันทร์ (Heat Flow Experiment), เครื่องวัดสนามแม่เหล็กบนพื้นผิวดวงจันทร์ (Lunar Surface Magnetometer), และเครื่องวัดแผ่นดินไหวแบบเฉื่อย (Passive Seismic Experiment) เพื่อศึกษาลักษณะทางกายภาพและธรณีวิทยาของดวงจันทร์ในระยะยาว
- ลูนาร์ โรฟวิง วิฮิเคิล (LRV): นอกเหนือจากการเป็นพาหนะในการสำรวจแล้ว LRV ยังติดตั้งกล้องโทรทัศน์ที่สามารถถ่ายทอดภาพการปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์กลับมายังโลกได้เป็นครั้งแรก
- การทดลองในวงโคจร: วอร์เดนได้ใช้เครื่องมือต่างๆ บนยานเอนเดฟเวอร์เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของพื้นผิวดวงจันทร์ แรงโน้มถ่วง และสนามแม่เหล็ก
การเดินทางกลับสู่โลก
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจบนดวงจันทร์ นักบินอวกาศได้นำยานลงจอด “ฟอลคอน” (Falcon) กลับขึ้นสู่วงโคจรเพื่อเชื่อมต่อกับยานบังคับการเอนเดฟเวอร์ พวกเขาได้ทิ้งยานฟอลคอนไว้ในวงโคจรรอบดวงจันทร์ จากนั้นจึงเดินทางกลับสู่โลก โดยยานเอนเดฟเวอร์ได้ลงจอดอย่างปลอดภัยในมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971)
ผลกระทบและความสำคัญของ Apollo 15
ภารกิจ Apollo 15 ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญอีกก้าวหนึ่งของโครงการ Apollo การใช้งานยาน LRV ได้เปิดศักราชใหม่ของการสำรวจดวงจันทร์ ทำให้มนุษย์สามารถเข้าถึงและศึกษาพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อมูลและตัวอย่างที่นักบินอวกาศนำกลับมายังโลกได้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจเกี่ยวกับดวงจันทร์และระบบสุริยะมากขึ้นอย่างมหาศาล
Apollo 15 ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีและการสำรวจอวกาศเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของมนุษย์ในการก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อสำรวจโลกที่อยู่ไกลออกไป
ข้อมูลอ้างอิง: NASA
You may also like
จำนวนเข้าชม: 8
เรื่องยอดนิยม
9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (3,574)
บัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,213)
จีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,776)
ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,727)
SpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,577)