ข่าวอวกาศ

ภัยคุกคามที่มองไม่เห็น! นักวิทยาศาสตร์พบ “ดาวเคราะห์น้อยซ่อนเร้น” ใกล้ดาวศุกร์ อาจเป็นอันตรายต่อโลกในอนาคต

ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้ค้นพบภัยคุกคามทางอวกาศที่อาจถูกมองข้ามมานาน นั่นคือ ดาวเคราะห์น้อย (Asteroids) ที่โคจรอยู่ใกล้กับดาวศุกร์ (Venus) ในลักษณะพิเศษ ซึ่งทำให้พวกมันแทบจะตรวจจับไม่ได้จากกล้องโทรทรรศน์ที่อยู่บนโลก แม้ว่าในปัจจุบันดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้จะโคจรอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย แต่การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ชี้ให้เห็นว่าวงโคจรของพวกมันมีความไม่เสถียร และอาจเบนเข้าใกล้จนตัดวงโคจรของโลกได้ในอนาคต

วงโคจรซ่อนเร้น เหตุใดจึงมองไม่เห็น?

ดาวเคราะห์น้อยกลุ่มนี้ไม่ได้อยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยหลัก (Main Asteroid Belt) ที่อยู่ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี แต่กลับเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น และถูกล็อกให้อยู่ในภาวะการสั่นพ้องกับดาวศุกร์ (Resonance with Venus) หมายความว่า พวกมันใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์เท่ากับเวลาที่ดาวศุกร์ใช้

นักดาราศาสตร์อธิบายว่า วัตถุเหล่านี้โคจรรอบดวงอาทิตย์ในเวลาเท่ากับดาวศุกร์ แต่เนื่องจากตำแหน่งของมัน พวกมันจึงยังคงมองไม่เห็น ดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่จะถูกบดบังด้วยแสงจ้าของดวงอาทิตย์ตลอดเวลา ทำให้เครื่องมือสมัยใหม่ เช่น กล้องโทรทรรศน์ Vera Rubin ในชิลี สามารถมองเห็นวัตถุเหล่านี้ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อปี และเฉพาะเมื่อพวกมันลอยสูงจากขอบฟ้ามากพอเท่านั้น

นักดาราศาสตร์ทราบถึงดาวเคราะห์น้อยที่มีวงโคจรแบบนี้เพียง 20 ดวง เท่านั้น ซึ่งเกือบทั้งหมดมีวงโคจรที่ยืดออก (Elongated orbits) ทำให้สามารถตรวจจับได้เป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม แบบจำลองคอมพิวเตอร์แสดงให้เห็นว่า จำนวนที่แท้จริงมีมากกว่านี้มาก โดยส่วนใหญ่มักมีวงโคจรที่ไม่ยืดออกมากนัก จึงถูกแสงอาทิตย์บดบังอยู่

มีโอกาสชนโลกหรือไม่?

อันตรายที่แท้จริงอยู่ที่ความไม่เสถียรของวงโคจร แม้ว่าพวกมันจะอยู่ในเส้นทางที่ปลอดภัยใกล้ดาวศุกร์ได้เป็นเวลานาน แต่ทุก ๆ ประมาณ 12,000 ปี วงโคจรจะเปลี่ยนรูปแบบ ทำให้พวกมันสามารถตัดวงโคจรของโลกได้

งานวิจัยนี้ระบุว่า ดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้เดิมทีมาจากแถบหลักระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ก่อนที่แรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์จะผลักให้วงโคจรของพวกมันเลื่อนเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น และติดอยู่ในภาวะสั่นพ้องกับดาวศุกร์

นักวิจัยได้จำลองสถานการณ์ที่ดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้สามารถเข้าใกล้โลกในระยะที่อันตราย หากวัตถุขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 เมตร พุ่งชนโลก จะเกิดหลุมอุกกาบาต (Crater) กว้างหลายกิโลเมตร และปลดปล่อยพลังงานมหาศาลเทียบเท่ากับระเบิดหลายร้อยเมกะตัน หากพุ่งชนในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ก็จะนำมาซึ่งหายนะ นี่คือสถานการณ์ที่ไม่สามารถละเลยได้

เนื่องจากเครื่องมือบนพื้นโลกแทบจะหมดหนทางในการค้นหาวัตถุที่ถูกบดบังด้วยแสงอาทิตย์นี้ได้ นักวิทยาศาสตร์จึงมีความหวังสูงกับภารกิจสำรวจอวกาศ โดยเฉพาะนาซากำลังดำเนินการโครงการยานอวกาศ Neo Surveyor และประเทศจีนกำลังวางแผนภารกิจ Crown ซึ่งยานอวกาศเหล่านี้จะสามารถแอบมองเข้าไปในพื้นที่ที่กล้องโทรทรรศน์บนโลกเข้าไม่ถึง และเปิดเผยให้เห็นโลกที่ซ่อนเร้นของดาวเคราะห์น้อยกลุ่มนี้

งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Astronomy & Astrophysics


ข้อมูลอ้างอิง: Universe Space Tech

  • Are asteroids near Venus dangerous for Earth?