นักดาราศาสตร์ค้นพบวัตถุประหลาดในกาแล็กซีทางช้างเผือก

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ทีมนักดาราศาสตร์นานาชาติได้รายงานการค้นพบวัตถุประหลาดชิ้นใหม่ในกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา วัตถุท้องฟ้าลึกลับนี้อาจจะเป็นดาวฤกษ์ ดาวคู่ หรือวัตถุที่ยังไม่ทราบแน่ชัด ได้ปล่อยรังสีเอ็กซ์ (X-rays) ออกมาพร้อม ๆ กับการแผ่คลื่นวิทยุ (radio waves) ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ วงจรการปล่อยคลื่นนี้ซ้ำทุก 44 นาที โดยเฉพาะในช่วงที่วัตถุมีความเคลื่อนไหวสูงเป็นพิเศษ

วัตถุนี้มีชื่อว่า ASKAP J1832−091  ตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 15,000 ปีแสง ในบริเวณกาแล็กซีทางช้างเผือกที่เต็มไปด้วยดวงดาว ก๊าซ และฝุ่น

ซีเทง แอนดี้ วัง (Ziteng Andy Wang) นักดาราศาสตร์ชาวออสเตรเลีย  จากมหาวิทยาลัยเคอร์ทิน (Curtin University) ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้เขียนบทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ (Nature) กล่าวว่า วัตถุนี้อาจเป็นดาวที่ตายแล้วซึ่งมีสนามแม่เหล็กสูงมาก เช่น ดาวนิวตรอน (neutron star) หรือดาวแคระขาว (white dwarf) หรืออาจเป็นสิ่งแปลกใหม่และยังไม่ทราบประเภท

กล้องโทรทรรศน์อวกาศรังสีเอ็กซ์จันทรา (Chandra X-ray Observatory) ของนาซา ซึ่งถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรในปี 1999 เพื่อสังเกตการณ์วัตถุที่ร้อนจัดและมีพลังงานสูงในเอกภพ ได้ตรวจพบการปล่อยรังสีเอ็กซ์จากวัตถุนี้โดยบังเอิญเมื่อปีที่แล้ว ขณะกำลังมุ่งเน้นไปที่ซากซูเปอร์โนวา (supernova remnant) หรือซากดาวที่ระเบิด  นี่เป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบรังสีเอ็กซ์จากการเปลี่ยนแปลงคลื่นวิทยุแบบคาบยาว (long-period radio transient) ซึ่งเป็นวัตถุหายากที่ปล่อยสัญญาณวิทยุเป็นวัฏจักรนานหลายสิบนาที ด้วยระยะทางที่ไม่แน่นอน นักดาราศาสตร์จึงไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุประหลาดนี้เกี่ยวข้องกับซากซูเปอร์โนวาหรือไม่

ช่วงที่วัตถุนี้มีการเคลื่อนไหวสูงเป็นพิเศษดูเหมือนจะยาวนานประมาณหนึ่งเดือน นอกเหนือจากช่วงเวลานั้น วัตถุนี้ไม่ปล่อยรังสีเอ็กซ์ที่สังเกตเห็นได้ นั่นอาจหมายความว่ายังมีวัตถุประเภทนี้อีกมากมายในอวกาศ

แม้การค้นพบครั้งนี้จะยังไม่สามารถไขปริศนาว่าวัตถุเหล่านี้คืออะไร แต่จากการศึกษาพวกมันทำให้มีความเป็นไปได้สองทาง คือการค้นพบสิ่งใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน หรือกำลังเห็นวัตถุที่รู้จักอยู่แล้วแต่ปล่อยคลื่นวิทยุและรังสีเอ็กซ์ในแบบที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน