
นักวิทยาศาสตร์ที่ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู (Bennu) ที่ได้จากภารกิจโอไซริส-เร็กซ์ (OSIRIS-REx) ได้เปิดเผยถึงความเป็นมาอันยาวนานของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ โดยพบว่ามันเป็นเศษชิ้นส่วนที่เหลือจากยุคแรกเริ่มของระบบสุริยะ ซึ่งเผยความลับเกี่ยวกับการก่อตัวและวิวัฒนาการของระบบดาวของเรา
ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Astronomy และ Nature Geoscience ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับเบนนู ดังนี้
- การศึกษาชิ้นแรกชี้ว่าเบนนูมีต้นกำเนิดมาจากดาวเคราะห์น้อยแม่ (parent asteroid) ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ซึ่งเป็นเศษชิ้นส่วนจากหลายแหล่งในอวกาศ รวมถึงบางส่วนจากดวงดาวที่อยู่ไกลโพ้นและอาจมาจากบริเวณนอกวงโคจรของดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีด้วย ดาวเคราะห์แม่ดวงนี้อาจเคยถูกชนโดยอุกกาบาตดวงอื่น ทำให้แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนที่จะรวมตัวกันใหม่กลายเป็นเบนนู
- การศึกษาชิ้นที่สองพบว่าแร่ธาตุในดาวเคราะห์แม่ได้รับผลกระทบจากน้ำอย่างรุนแรง น้ำได้ทำปฏิกิริยากับแร่ซิลิเกต ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดแร่ธาตุที่อุดมด้วยน้ำ ซึ่งยังคงมีอยู่ในตัวอย่างที่เก็บมาได้จนถึงปัจจุบัน
- การศึกษาชิ้นที่สามสรุปว่าพื้นผิวของเบนนูได้เผชิญกับสภาพผุพังจากอวกาศ (space weathering) อย่างต่อเนื่อง จากการถูกอุกกาบาตขนาดเล็กและลมสุริยะพัดกระหน่ำ ทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตขนาดจิ๋วและร่องรอยของหินที่เคยหลอมละลายบนพื้นผิว
ยานอวกาศโอไซริส-เร็กซ์ ถูกส่งขึ้นไปในปี ค.ศ. 2016 โดยมีเป้าหมายในการเก็บตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยเบนนู ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกที่มีขนาดใหญ่พอสมควร หมุนรอบตัวเองช้า และมีองค์ประกอบที่อุดมไปด้วยคาร์บอน ยานได้เก็บตัวอย่างในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2020 และนำกลับมายังโลกในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2023 เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์ ซึ่งการศึกษาเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจถึงเงื่อนไขและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในระบบสุริยะยุคแรกเริ่มได้ดีขึ้น
การวิเคราะห์อนุภาคเล็ก ๆ จากเบ็นนูไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำความเข้าใจดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ แต่ยังเป็นการเปิดหน้าต่างสู่ช่วงเวลาสำคัญของการก่อตัวระบบสุริยะ ซึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ปะติดปะต่อเรื่องราวของอดีตอันไกลโพ้นได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง: Discovery
- Tiny Particles Reveal Asteroid Bennu’s Origin Story at the Beginning of the Solar System