
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเบาะแสสำคัญว่าเหตุใด “ซิลิคอน” ธาตุที่พบมากในจักรวาล จึงไม่ปรากฏในชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ การค้นพบนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญจากวัตถุลึกลับที่ชื่อว่า “ดิ แอกซิเดนต์” (The Accident) ซึ่งเป็นดาวแคระน้ำตาลที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดดวงหนึ่ง และเป็นแห่งแรกที่มีการยืนยันการมีอยู่ของโมเลกุล “ไซเลน” (Silane) ซึ่งเป็นหลักฐานทางเคมีที่ถูกตามหามานาน
กล้องโทรทรรศน์อวกาศที่ทรงพลังที่สุดของ NASA อย่างกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope – JWST) ได้ให้ข้อมูลที่ไม่คาดคิดต่อปริศนาทางเคมีของดาวเคราะห์ยักษ์ การศึกษาที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ในวารสาร Nature ได้มุ่งเน้นไปที่วัตถุประหลาดที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญในปี 2563 และได้รับฉายาว่า “ดิ แอกซิเดนต์”
“ดิ แอกซิเดนต์” จัดอยู่ในประเภทดาวแคระน้ำตาล (Brown Dwarf) ซึ่งเป็นวัตถุอวกาศที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเป็นดาวเคราะห์ แต่เล็กเกินกว่าจะจุดระเบิดเป็นดาวฤกษ์ วัตถุนี้มีความผิดปกติอย่างมาก แม้จะอยู่ในกลุ่มที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว โดยบรรยากาศของมันแสดงลักษณะที่ผสมผสานกันอย่างแปลกประหลาด ทั้งลักษณะที่พบในดาวแคระน้ำตาลที่อายุน้อย และลักษณะที่มักจะพบในกลุ่มที่มีอายุมากกว่ามาก ความซับซ้อนนี้ทำให้มันหลุดรอดเทคนิคการตรวจจับมาตรฐานไปจนกระทั่งอาสาสมัครคนหนึ่งค้นพบมันโดยบังเอิญ ขณะกำลังตรวจสอบข้อมูลของ NASA
เนื่องจาก “ดิ แอกซิเดนต์” นั้นจางและผิดปกติมาก นักวิจัยจึงต้องใช้พลังของกล้องโทรทรรศน์เจมส์ เวบบ์ เพื่อศึกษาชั้นบรรยากาศของมัน ในบรรดาเรื่องน่าประหลาดใจหลายอย่าง พวกเขาพบหลักฐานของโมเลกุลที่ระบุได้ว่าเป็น ไซเลน (Silane – SiH₄) ซึ่งเป็นโมเลกุลซิลิคอนอย่างง่าย
นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์มานานแล้วว่าจะพบไซเลนไม่ใช่แค่ในดาวเคราะห์ยักษ์แก๊สในระบบสุริยะของเรา เช่น ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ แต่ยังรวมถึงในดาวแคระน้ำตาลและดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอีกหลายพันดวง แต่ “ดิ แอกซิเดนต์” คือวัตถุแรกที่มีการยืนยันการมีอยู่ของโมเลกุลนี้อย่างเป็นทางการ
นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่า ซิลิคอน (Silicon) ธาตุที่พบมากที่สุดธาตุหนึ่งในจักรวาล มีอยู่ในบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ แต่มันถูกซ่อนไว้ในเมฆ
การที่โมเลกุลที่เบากว่าอย่างไซเลนไม่ปรากฏในที่อื่น นอกจากในดาวแคระน้ำตาลที่ผิดปกติดวงนี้ จึงเป็นเบาะแสสำคัญที่บ่งชี้ถึงกลไกทางเคมีบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น
เบาะแสที่สำคัญที่สุดคืออายุของ “ดิ แอกซิเดนต์” ซึ่งคาดว่าก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 10,000 ล้านถึง 12,000 ล้านปีที่แล้ว ทำให้มันเป็นหนึ่งในดาวแคระน้ำตาลที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ
นักวิจัยสันนิษฐานว่า ในบรรยากาศของดาวแคระน้ำตาลโบราณดวงนี้มีออกซิเจนอยู่ในปริมาณที่น้อยกว่ามากในตอนที่มันก่อตัว ซึ่งแตกต่างจากดาวเคราะห์และดาวแคระน้ำตาลที่ก่อตัวขึ้นใหม่กว่า ซึ่งมีธาตุหนักกว่า เช่น ออกซิเจน มากขึ้น การมีออกซิเจนที่ต่ำทำให้ซิลิคอนส่วนน้อยที่มีอยู่ไม่ได้ถูกกลืนกินไปทั้งหมด แต่มีโอกาสไปรวมตัวกับไฮโดรเจนแทน จึงเกิดเป็นโมเลกุลไซเลนขึ้นมา
การสังเกตการณ์ของเวบบ์ยืนยันว่า ไซเลนสามารถก่อตัวในบรรยากาศของดาวแคระน้ำตาลและดาวเคราะห์ได้จริง การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยไขปริศนาทางเคมีของดาวเคราะห์ยักษ์ในระบบสุริยะของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญที่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาบรรยากาศของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเตรียมพร้อมสำหรับค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิง: Science Tech Daily
- A Cosmic Accident Just Exposed the Hidden Chemistry of Giant Planets