ในห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ การปรากฏตัวของวัตถุจากต่างถิ่นมักสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการดาราศาสตร์เสมอ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2025 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นเมื่อ “3I/ATLAS” ดาวหางระหว่างดวงดาว (Interstellar comet) หรือดาวหางที่เดินทางมาจากนอกระบบสุริยะของเรา ได้เคลื่อนที่โผล่พ้นจากด้านหลังของดวงอาทิตย์และมุ่งหน้ากลับออกไปยังระบบสุริยะชั้นนอก ช่วงเวลานี้ถือเป็นนาทีทองทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากดาวหางกำลังอยู่ในสภาวะตื่นตัวเต็มที่หลังจากเพิ่งโคจรผ่านจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด ทำให้กล้องโทรทรรศน์และยานสำรวจอวกาศต่าง ๆ สามารถจับภาพความเปลี่ยนแปลงนี้ไว้ได้ โดยหนึ่งในยานสังเกตการณ์สำคัญคือ ยานสำรวจดวงจันทร์น้ำแข็งของดาวพฤหัสบดี หรือ “JUICE” (JUpiter Icy Moon Explorer) ขององค์การบริหารอวกาศยุโรป (ESA)
ยาน JUICE ได้บันทึกภาพประวัติศาสตร์นี้ไว้เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2025 โดยใช้กล้องนำทาง (Navigation Camera หรือ NavCam) ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงสองวันก่อนที่ยานจะโคจรเข้าใกล้ดาวหางดวงนี้มากที่สุดที่ระยะห่างประมาณ 66 ล้านกิโลเมตร แม้ว่าระยะห่างนี้จะไกลกว่าช่วงที่ยาน Mars Express และ ExoMars Trace Gas Orbiter (TGO) เคยถ่ายภาพไว้เมื่อเดือนตุลาคม แต่ภาพชุดใหม่จาก JUICE กลับมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการจับภาพในช่วงที่ดาวหาง 3I/ATLAS มีความเคลื่อนไหวและปลดปล่อยมวลสารออกมามากที่สุด ส่งผลให้เราได้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนและแตกต่างออกไป
สิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับทีมวิจัยคือ แม้กล้อง NavCam จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อถ่ายภาพความละเอียดสูงเพื่อการวิจัยโดยตรง แต่ภาพที่ได้กลับเผยให้เห็นรายละเอียดที่ซับซ้อนของดาวหางอย่างเหลือเชื่อ ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นส่วนที่เป็นโคมา (Coma) หรือชั้นฝุ่นและก๊าซที่ห่อหุ้มหัวดาวหางที่สว่างไสว และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือการปรากฏของหางสองแฉกที่แยกตัวออกจากกันอย่างชัดเจน ประกอบด้วยหางพลาสมา (Plasma tail) ซึ่งเกิดจากก๊าซที่แตกตัวเป็นไอออนยืดตัวยาวขึ้นไปด้านบน และหางฝุ่น (Dust tail) ที่เกิดจากอนุภาคของแข็งที่หลุดออกมาจากการคายก๊าซยืดตัวลงมาด้านล่าง ซึ่งลักษณะทางกายภาพเหล่านี้ยืนยันสถานะความเป็นดาวหางของวัตถุปริศนานี้ได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลฉบับเต็มจากการสำรวจครั้งนี้จะยังเดินทางมาไม่ถึงโลกในทันที องค์การบริหารอวกาศยุโรปคาดการณ์ว่าจะได้รับข้อมูลทั้งหมดระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2026 สาเหตุของความล่าช้านี้เกิดจากความจำเป็นทางเทคนิค ที่ยาน JUICE ต้องใช้จานสายอากาศอัตราขยายสูง (High-gain antenna) ซึ่งเป็นเสาหลักในการส่งข้อมูล หันไปทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ให้กับตัวยาน ทำให้ในระหว่างนี้ ยานต้องสลับไปใช้สายอากาศอัตราขยายปานกลางที่มีขนาดเล็กกว่าในการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งทำได้ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่ามาก แต่ทางทีมงานก็สามารถดึงข้อมูลภาพบางส่วนจากกล้อง NavCam ลงมาได้ก่อนเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับชาวโลก
เมื่อข้อมูลชุดใหญ่เดินทางมาถึง เราจะได้เห็นภาพที่คมชัดยิ่งขึ้นจากกล้องความละเอียดสูง JANUS รวมถึงข้อมูลสเปกตรัมจากเครื่องมือ MAJIS และ UVS ที่จะช่วยไขปริศนาองค์ประกอบทางเคมี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากเครื่องมือวัดคลื่นความถี่ระดับซับมิลลิเมตร (SWI) และชุดอุปกรณ์ตรวจสอบอนุภาค (PEP) ที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สืบสาวย้อนกลับไปได้ว่าดาวหางดวงนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากที่ใด การศึกษาดาวหาง 3I/ATLAS ที่อาจมีอายุเก่าแก่ถึง 7,000 ล้านปีดวงนี้ เปรียบเสมือนการเปิดหน้าต่างกาลเวลาเพื่อมองย้อนกลับไปดูสภาพของกาแล็กซีทางช้างเผือกในยุคก่อนที่ระบบสุริยะและโลกของเราจะถือกำเนิดขึ้นเสียอีก
ข้อมูลอ้างอิง: ESA
- Comet 3I/ATLAS shows activity in Juice navigation camera teaser