นักบินอวกาศบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ได้บันทึกภาพถ่ายชุดหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็น “วาระแห่งการรอคอยชั่วชีวิต” เมื่อดาวหางสองดวงที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่ คือ ดาวหางเลมมอน (Lemmon) และดาวหางสวอน (C/2025 R2) ได้โคจรตัดผ่านชั้นบรรยากาศโลกเหนือกลุ่มแสงออโรรา (Aurora) สีสันสดใสที่เกิดจากการปะทุครั้งใหญ่ของดวงอาทิตย์อย่างพอดี
ภาพชุดนี้เผยแพร่โดยองค์การนาซา (NASA) ได้ฉายภาพอันน่าทึ่งของการเรียงตัวกันของวัตถุจากห้วงอวกาศลึกและปรากฏการณ์ธรรมชาติของโลก ซึ่งตอกย้ำถึงความมหัศจรรย์ของเอกภพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาวหางหงส์นั้น คาดว่าจะต้องใช้เวลานานถึง 22,554 ปี กว่าจะโคจรกลับมาให้มนุษย์โลกได้ยลโฉมอีกครั้ง
ภาพฉากที่สมบูรณ์แบบนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดหนึ่งในการปะทุของดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้ ทำให้เกิดอนุภาคมีประจุพลังงานสูงพุ่งเข้าชนชั้นบรรยากาศโลกและก่อให้เกิดแสงออโรราที่สว่างไสวและครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ ขณะเดียวกัน ดาวหางทั้งสองดวงก็กำลังเคลื่อนที่ผ่านวงโคจรของพวกมันพอดี ทำให้นักบินอวกาศบน ISS มีโอกาสพิเศษที่จะบันทึกภาพของดาวหางที่ทิ้งหางเป็นฝุ่นและแก๊สสีจาง ๆ โดยมีม่านแสงสีเขียวม่วงของออโรราเป็นฉากหลัง
ดาวหางเลมมอนและดาวหางสวอนเป็นวัตถุที่เพิ่งถูกยืนยันการค้นพบในปี 2025 นี้ โดยมีแหล่งกำเนิดและการเดินทางที่แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ
- ดาวหางเลมมอน
นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่ามีต้นกำเนิดจากเมฆออร์ต (Oort Cloud) ซึ่งเป็นอาณาจักรของวัตถุน้ำแข็งที่อยู่รอบนอกสุดของระบบสุริยะ แม้จะอยู่ไกลมาก แต่ดาวหางดวงนี้มีวงโคจรที่สั้นกว่า คาดว่าจะกลับมาเยือนเราอีกครั้งในอีกประมาณพันปีข้างหน้า - ดาวหางสวอน
เป็นวัตถุที่มาจากที่ไกลโพ้นกว่ามาก ทำให้วงโคจรของมันใช้เวลายาวนานอย่างยิ่ง ข้อมูลปัจจุบันบ่งชี้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มนุษย์ยุคนี้จะได้เห็นดาวหางสวอน เพราะการกลับมาครั้งต่อไปจะต้องรอถึงสองหมื่นกว่าปี
การบันทึกภาพครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงภาพถ่ายที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อมูลล้ำค่าสำหรับนักดาราศาสตร์ในการศึกษาโครงสร้างและวิถีโคจรของดาวหางที่มาจากขอบนอกของระบบสุริยะ ซึ่งเป็นหน้าต่างสำคัญที่เผยให้เห็นองค์ประกอบทางเคมีดั้งเดิมของเอกภพ
ข้อมูลอ้างอิง: Popular Science
- ISS astronauts photograph two comets soaring over Earth’s auroras
