
นักวิทยาศาสตร์ได้ประกาศข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของเอกภพ (Cosmic Microwave Background – CMB) ด้วยกล้องโทรทรรศน์ขั้วโลกใต้ (South Pole Telescope – SPT) ซึ่งมีความละเอียดที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อมูลนี้บ่งชี้ถึงยุคใหม่ในการศึกษาแสงแรกเริ่มของเอกภพและการทำความเข้าใจจักรวาลของเรา
ข้อมูลชุดนี้ได้จากการสังเกตการณ์เป็นเวลาสองปี โดยใช้กล้อง SPT-3G รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัปเกรด ซึ่งมีเครื่องตรวจจับมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10 เท่า ผลลัพธ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำในรายละเอียดของ CMB ที่เหนือกว่าการวัดค่าก่อนหน้านี้ทั้งหมด รวมถึงข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศด้วยซ้ำ
รังสีไมโครเวฟพื้นหลังของเอกภพ (CMB) คือแสงที่เก่าแก่ที่สุดในเอกภพ ซึ่งเดินทางข้ามอวกาศมานับตั้งแต่หลังเหตุการณ์ #บิกแบง (Big Bang) ไม่นาน แม้จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่การศึกษาแสงที่หลงเหลืออยู่นี้เป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กล้องโทรทรรศน์ขั้วโลกใต้ ซึ่งดำเนินการโดยความร่วมมือที่นำโดยมหาวิทยาลัยชิคาโก (University of Chicago) ได้ทำการสำรวจแสงนี้มาตั้งแต่ปี 2550
ข้อมูลชุดใหม่นี้เสมือนเป็นการตรวจสอบแบบไขว้ (cross-check) กับแบบจำลองพื้นฐานของเอกภพ และเมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทดสอบคำถามสำคัญหลายประการในด้านจักรวาลวิทยา เช่น ลักษณะของพลังงานมืด (dark energy) และอัตราการขยายตัวของเอกภพ
ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ขั้วโลกใต้ได้ยืนยันความขัดแย้งของฮับเบิล (Hubble tension) อย่างเป็นอิสระด้วยนัยสำคัญทางสถิติที่สูงมาก ในขณะที่ยังคงสอดคล้องกับข้อจำกัดของ CMB อื่นๆ ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากภารกิจดาวเทียมพลังค์ (Planck satellite mission) และกล้องโทรทรรศน์จักรวาลวิทยาอะตาคามา (Atacama Cosmology Telescope) ในประเทศชิลี
นักวิทยาศาสตร์เน้นย้ำว่าผลลัพธ์ใหม่นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เนื่องจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากกล้อง SPT-3G ยังมีอีกจำนวนมากที่ต้องนำมาวิเคราะห์ต่อ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเอกภพของเรา
ข้อมูลอ้างอิง: University of Chicago
- Latest data from South Pole Telescope signals ‘new era’ for measuring the first light in the universe