นักวิทย์นาซาพลิกมุมมอง! รังสีคอสมิก อาจเป็นแหล่งพลังงานให้สิ่งมีชีวิตใต้โลกน้ำแข็ง

นักวิทยาศาสตร์นำเสนอแนวคิดใหม่ที่อาจเปลี่ยนมุมมองการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกไปอย่างสิ้นเชิง โดยชี้ว่า รังสีคอสมิก (cosmic rays) ซึ่งเป็นอนุภาคพลังงานสูงที่พุ่งผ่านอวกาศและมักถูกมองว่าเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต อาจเป็นกุญแจสำคัญที่สร้างแหล่งพลังงานให้แก่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้พื้นผิวน้ำแข็งหนาของดวงจันทร์ในระบบสุริยะของเรา เช่น ดวงจันทร์ยูโรปา (Europa) ของดาวพฤหัสบดี และดวงจันทร์เอนเซลาดัส (Enceladus) ของดาวเสาร์

โดยทั่วไปแล้ว การค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์หรือดวงจันทร์เหล่านี้มักมีอุปสรรคสำคัญคือ แผ่นน้ำแข็งที่หนาทึบหลายสิบกิโลเมตรได้บดบังแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของสิ่งมีชีวิตบนโลก ทำให้มหาสมุทรที่อยู่ข้างใต้ตกอยู่ในความมืดมิดตลอดกาล นักวิทยาศาสตร์จึงมักมองหาแหล่งพลังงานทางเลือกอื่น เช่น พลังงานเคมีจากปล่องความร้อนใต้ทะเล (hydrothermal vents)

งานวิจัยชิ้นใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การนาซา ได้เสนอความเป็นไปได้อีกทางหนึ่ง เมื่อรังสีคอสมิกซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยโปรตอนและนิวเคลียสของอะตอม พุ่งชนเข้ากับโมเลกุลของน้ำแข็ง มันจะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาเคมี (chemical reactions) ที่สามารถสลายโมเลกุลน้ำและสร้างสารประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต เช่น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide) และออกซิเจน (oxygen) ได้

สารประกอบเหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานทางเคมี หรืออาหารให้กับจุลินทรีย์ที่อาจดำรงชีวิตอยู่ในมหาสมุทรใต้พื้นผิวน้ำแข็งได้ คล้ายกับที่สิ่งมีชีวิตบางชนิดบนโลกใช้สารเคมีจากก้นทะเลลึกเพื่อดำรงชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาแสงอาทิตย์

ทีมวิจัยได้สร้างแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ เพื่อคำนวณปริมาณพลังงานที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้บนดวงจันทร์ยูโรปา ผลการคำนวณพบว่า พลังงานที่เกิดจากรังสีคอสมิกนั้นมีปริมาณเทียบได้กับแหล่งพลังงานรูปแบบอื่น ๆ ที่เคยมีการเสนอ และอาจเพียงพอต่อการดำรงอยู่ของชุมชนจุลินทรีย์

การค้นพบนี้ช่วยขยายขอบเขตของสภาพแวดล้อมที่อาจเอื้อต่อการดำรงชีวิต (habitable environments) ให้กว้างขึ้น และยังเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับภารกิจสำรวจในอนาคต เช่น ภารกิจยูโรปาคลิปเปอร์ (Europa Clipper) ของนาซา ซึ่งจะเดินทางไปสำรวจดวงจันทร์ยูโรปาอย่างละเอียด เพื่อค้นหาร่องรอยของมหาสมุทรและเงื่อนไขที่อาจเอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง: Universe Today