
“ความบังเอิญที่นำพาสู่จุดหมาย” เรื่องราวของดักลาส หว่อง วิศวกรระบบของนาซา
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล บางครั้งเส้นทางชีวิตของเราก็ดูเหมือนถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าอย่างน่าอัศจรรย์ เรื่องราวของ ดักลาส หว่อง (Douglas Wong) วิศวกรระบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและการประกันภารกิจของยานอวกาศเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS CRS Visiting Vehicle Safety & Mission Assurance Integration Focal) จากศูนย์อวกาศจอห์นสัน (Johnson Space Center) ขององค์การนาซา (NASA) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของแนวคิดที่เขาเรียกว่า ซิงโครนิซิตี้ (synchronicity) หรือความบังเอิญที่สอดคล้องกันอย่างมีความหมาย
เมื่ออายุประมาณ 16 หรือ 17 ปี เขาได้อ่านหนังสือเรื่อง “Space Odyssey 2001” ของ อาร์เธอร์ ซี. คลาร์ก (Arthur C. Clarke) ซึ่งเป็นหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์เล่มแรกที่เขาเคยอ่าน ทำให้เขาหลงใหลในสิ่งที่คลาร์กเขียนเกี่ยวกับการคาดการณ์ถึงสถานีอวกาศ กระสวยอวกาศ และยานอวกาศที่จะไปดวงจันทร์ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในเวลาต่อมา แรงบันดาลใจนี้ทำให้เขาหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้ทำงานเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น
ดักลาส หว่อง สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจาก St. Francis Xavier’s School ของฮ่องกง และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเครื่องกล (Master of Science degree in Mechanical Engineering) จากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ (University of Maryland) ในปี พ.ศ. 2532
เขาตั้งใจจะเรียนวิศวกรรมอวกาศ แต่ได้รับคำแนะนำว่าวิศวกรรมเครื่องกลจะให้พื้นฐานที่กว้างกว่า และต่อมาเมื่อมีโอกาสได้ทำงานกับ NASA ในช่วงที่ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan) เสนอโครงการพัฒนาสถานีอวกาศ (ซึ่งในขณะนั้นเรียกว่า “Freedom”) เขารู้สึกตื่นเต้นกับแนวคิดนี้ และได้ลงเอยกับการทำงานในสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station)
ดักลาส หว่อง เชื่อว่า “บางครั้งผมก็เชื่อในซิงโครนิซิตี้ สิ่งที่คุณทำ ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง ล้วนนำไปสู่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของคุณ มีแรงผลักดันที่มองไม่เห็นผลักดันคุณไปในทิศทางนั้น เมื่อคุณมองย้อนกลับไป คุณจะตระหนักว่าทุกสิ่งทุกอย่างเข้ากันได้อย่างลงตัว” คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่น่าสนใจของเขาต่อการเดินทางในชีวิตและอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานที่ต้องอาศัยความแม่นยำและการวางแผนอย่างรอบคอบ เช่นวิศวกรรมอวกาศ
ในโลกของการสำรวจอวกาศ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลร้ายแรงได้ ดังนั้นบทบาทของวิศวกรระบบอย่างดักลาส หว่อง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เขาต้องรับผิดชอบในการบูรณาการด้านความปลอดภัยและการประกันภารกิจของยานอวกาศที่เดินทางมายังสถานีอวกาศนานาชาติ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการเชื่อมต่อ การถ่ายโอนเสบียง หรือการปฏิบัติภารกิจใด ๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
การที่ดักลาส หว่อง สามารถทำงานในตำแหน่งที่มีความสำคัญเช่นนี้ อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลรวมจากประสบการณ์ การเรียนรู้ และการตัดสินใจตลอดชีวิตของเขา ที่ค่อย ๆ หล่อหลอมให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของเขา แรงผลักดันที่มองไม่เห็นที่เขาพูดถึง อาจเป็นความสนใจใฝ่รู้ ความมุ่งมั่น หรือแม้กระทั่งโอกาสที่เข้ามาในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว จะเห็นว่าทุกองค์ประกอบเหล่านั้นได้เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์แบบ
เรื่องราวของดักลาส หว่อง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายงานใดก็ตาม ว่าบางครั้งชีวิตก็มีจังหวะและทิศทางของมันเอง และเมื่อเรามองย้อนกลับไป เราอาจจะพบว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ความล้มเหลว หรือแม้แต่ความบังเอิญเล็ก ๆ น้อย ๆ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่นำเราไปสู่จุดหมายปลายทางในที่สุด
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- NASA. (n.d.). Douglas Wong, Systems Engineer, ISS CRS Visiting Vehicle Safety & Mission Assurance Integration Focal, NASA’s Johnson Space Center.
You may also like
เรื่องยอดนิยม
9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (3,779)
บัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,258)
จีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,795)
ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,748)
SpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,615)