หอดูดาวอาร์มาห์ (Armagh Observatory) แถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของ ดร. มาร์ต เดอ กรูท (Dr. Mart de Groot) อดีตผู้อำนวยการคนที่ 8 ของหอดูดาว ซึ่งถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพักในเมืองริชฮิลล์ อาร์มาห์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2025
ดร. เดอ กรูท คือบุคคลสำคัญที่นำพาสถาบันผ่านช่วงเวลาที่ท้าทาย และเป็นหัวเรือหลักในการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 200 ปีของหอดูดาวอันเก่าแก่แห่งนี้
ดร. มาร์ต เดอ กรูท เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938 ที่เมืองไลเดน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยยูเทรกต์ (University of Utrecht) ในปี 1959 ในสาขาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ และดาราศาสตร์
ไม่นานนัก ความลุ่มหลงในจักรวาลก็ได้นำพาเขาให้หันมาสนใจด้านวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ (Stellar Evolution) อย่างเต็มตัว และได้เริ่มต้นการศึกษาดาวฤกษ์ “พี ซิกนี” (P Cygni) ซึ่งกลายเป็นความผูกพันที่เขามีต่องานวิจัยชิ้นนี้ไปตลอดชีวิต

หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในปี 1969 เขาได้เดินทางไปสั่งสมประสบการณ์ในซีกโลกใต้ โดยดำรงตำแหน่งนักดาราศาสตร์ประจำ ณ หอดูดาวท้องฟ้าซีกใต้แห่งยุโรป (European Southern Observatory – ESO) บนเทือกเขาสูงอันห่างไกลในประเทศชิลี ระหว่างปี 1970-1976 ประสบการณ์ที่นั่นไม่เพียงแต่ให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ แต่ยังหล่อหลอมให้เขาพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับตำแหน่งที่เขากำลังจะเข้ารับในเวลาต่อมา
ดร. เดอ กรูท เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการหอดูดาวอาร์มาห์ในปี 1976 และกลายเป็นผู้อำนวยการคนสุดท้ายที่อาศัยอยู่ภายในอาคารของหอดูดาว ในช่วง 18 ปีของการดำรงตำแหน่ง เขาได้สร้างคุณูปการสำคัญหลายประการ ได้แก่
- การริเริ่มโครงการนักศึกษาปริญญาเอก โดยเขาได้ก่อตั้งโครงการรับนักศึกษาระดับปริญญาเอก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามและดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน มีผู้สำเร็จการศึกษาไปแล้วเกือบ 100 คน
- เพิ่มบุคลากรด้านดาราศาสตร์ ได้ขยายทีมงานนักดาราศาสตร์ ทำให้หอดูดาวกลายเป็นศูนย์กลางการวิจัยที่แข็งแกร่งขึ้น
- ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งคือการบูรณะกล้องโทรทรรศน์แบบอิเควทอเรียลของเทราตัน (Troughton Equatorial Telescope) และโดมที่ตั้ง ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงตั้งอยู่ในโดมดั้งเดิม โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีของหอดูดาวในปี 1990 ที่เขาเป็นผู้ริเริ่มและวางแผนมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการทำงาน
นอกเหนือจากงานด้านวิทยาศาสตร์แล้ว ดร. เดอ กรูท ยังเป็นบุรุษผู้มีความเชื่อทางศาสนาอย่างลึกซึ้ง หลังจากเกษียณจากตำแหน่งผู้อำนวยการในปี 1994 เขายังคงทำงานวิจัยที่หอดูดาวจนถึงปี 2000 และในปีเดียวกันนั้น เขาได้จัดประชุมนานาชาติ “P Cygni 2000: 400 Years of Progress” ซึ่งเป็นการกลับไปสู่ความสนใจทางดาราศาสตร์ที่เขารักมาตลอดชีวิต ต่อมาในปี 1997 เขาได้รับตำแหน่งศาสนาจารย์ประจำโบสถ์เซเวนต์เดย์แอดเวนติสต์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการอุทิศตนทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และศรัทธาไปพร้อมกัน
ศาสตราจารย์ไมเคิล เบอร์ตัน (Michael Burton) ผู้อำนวยการหอดูดาวและท้องฟ้าจำลองอาร์มาห์คนปัจจุบัน กล่าวว่า “มาร์ต เดอ กรูท เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขามีทั้งความหลงใหลในวิทยาศาสตร์และความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อมรดกของหอดูดาวอาร์มาห์ ความมุ่งมั่นของท่านในการสร้างสรรค์นวัตกรรม การวิจัย และการศึกษา ได้หล่อหลอมให้สถาบันเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน โครงการบัณฑิตศึกษาที่แข็งแกร่งและสถานะในระดับนานาชาติของหอดูดาว คือเครื่องพิสูจน์ถึงอิทธิพลที่ยั่งยืนของท่าน”
ศาสตราจารย์เอิร์นส์ท ยูเลียส เออปิก (Ernst Julius Öpik) นักดาราศาสตร์ผู้มีชื่อเสียง เคยกล่าวถึง ดร. เดอ กรูท ในวันที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการไว้ว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจอย่างยิ่งในบรรยากาศของความเป็นมิตร แนวทางที่มีมนุษยธรรม, ศาสนา และปรัชญา ที่อยู่รอบตัวผู้อำนวยการคนใหม่ของเรา” ซึ่งคำกล่าวนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริงตลอดช่วงชีวิตของท่าน

การจากไปของ ดร. มาร์ต เดอ กรูท ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญของวงการดาราศาสตร์ แต่มรดกที่เขาสร้างไว้ ทั้งในด้านองค์ความรู้ การพัฒนาบุคลากร และการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ จะยังคงเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับหอดูดาวอาร์มาห์และเป็นแรงบันดาลใจให้นักดาราศาสตร์รุ่นหลังสืบไป
ข้อมูลอ้างอิง: Armagh Observatory and Planetarium
- Dr Mart de Groot (1938-2025) – Eighth Director of the Armagh Observatory