องค์การอวกาศยุโรป (European Space Agency – ESA) ได้ประกาศจัดตั้งสำนักงานถาวรแห่งใหม่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็น “การปรากฏตัวครั้งแรกในทวีปเอเชีย” ขององค์กรอวกาศชั้นนำแห่งนี้ การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความร่วมมืออันยาวนานและเชื่อถือได้ระหว่าง ESA กับประเทศญี่ปุ่น และจะทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อขยายความร่วมมือกับ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (Japan Aerospace Exploration Agency – JAXA) รวมถึงระบบนิเวศด้านอวกาศที่เติบโตอย่างรวดเร็วของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพด้านอวกาศ
การประกาศจัดตั้งสำนักงานในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ศูนย์กลางนวัตกรรมอันคึกคักของโตเกียว อย่าง X-NIHONBASHI โดยเจ้าหน้าที่ของ ESA จะประจำการอยู่ในพื้นที่นี้ เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างสองทวีป การจัดตั้งสำนักงานในโตเกียวเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่หยั่งรากลึกกว่า 50 ปี ระหว่างยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ยุคก่อนการก่อตั้ง ESA เสียอีก โดยเป็นการต่อยอดจากความร่วมมือกับองค์กรต้นกำเนิดของ ESA
การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้จะผลักดันภารกิจร่วมระดับโลกให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ในหลายด้านที่สำคัญ เช่น
- การสำรวจโลก (Earth Observation)
ภารกิจ EarthCARE (Earth Cloud Aerosol and Radiation Explorer) คือภารกิจสำรวจโลกที่โคจรต่ำซึ่งเป็นความร่วมมือสำคัญระหว่าง ESA และ JAXA โดยมีเป้าหมายหลักในการศึกษาความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง เมฆและละอองลอย (Aerosol) ในบรรยากาศกับการแผ่รังสีของโลก - การป้องกันภัยดาวเคราะห์ (Planetary Defence) เช่น ภารกิจ Hera และ Ramses
– Hera คือยานอวกาศที่ถูกส่งไปสำรวจระบบดาวเคราะห์น้อยคู่ Didymos และดวงจันทร์ Dimorphos ซึ่งถูกยานอวกาศ DART ของ NASA พุ่งชนเพื่อทดสอบการเบี่ยงเบนทิศทางวงโคจรไปแล้วในปี พ.ศ. 2565
– Ramses (Rapid Apophis Mission for Space Safety) เป็นภารกิจที่วางแผนจะส่งยานไปโคจรอยู่รอบ ๆ ดาวเคราะห์น้อย Apophis ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกจัดให้เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่อันตรายที่สุด - การสำรวจระบบสุริยะ เช่น ภารกิจ BepiColombo
ภารกิจร่วมระหว่าง ESA และ JAXA ที่มุ่งหน้าสู่ ดาวพุธ (Mercury) ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดและอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในระบบสุริยะ เพื่อศึกษาดาวพุธอย่างละเอียดในทุกมิติ ทั้งองค์ประกอบพื้นผิว สนามแม่เหล็ก และการก่อกำเนิด การทำความเข้าใจดาวพุธจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ไขปริศนาเกี่ยวกับการก่อตัวของดาวเคราะห์หินในระบบสุริยะของเรา
ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอวกาศระดับโลก ทำให้เป็นพันธมิตรที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับ ESA ด้วยผลประโยชน์ร่วมกันและความท้าทายที่คล้ายคลึงกัน เช่น การใช้ประโยชน์จากอวกาศอย่างยั่งยืน การติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการส่งเสริมเศรษฐกิจอวกาศ การเป็นหุ้นส่วนระหว่าง ESA-ญี่ปุ่น จึงถือเป็น “รากฐานสำคัญ” ของความร่วมมือด้านอวกาศระดับโลก
ข้อมูลอ้างอิง : ESA
