
ระหว่างวันที่ 1 ถึง 7 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ยานสำรวจ ExoMars Trace Gas Orbiter (TGO) และยาน Mars Express ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) ได้เบนกล้องโทรทรรศน์มุ่งไปยังดาวหางระหว่างดาว (Interstellar Comet) 3I/ATLAS ขณะที่มันเดินทางเฉียดใกล้ดาวอังคาร นับเป็นมุมมองที่ใกล้ที่สุดจากยานอวกาศของ ESA เลยทีเดียว
ผู้มาเยือนจากต่างระบบสุริยะดวงนี้ได้เข้าใกล้ดาวอังคารมากที่สุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 โดยอยู่ห่างจากยานสำรวจทั้งสองประมาณ 30 ล้านกิโลเมตร ยานทั้งสองลำ ซึ่งปกติแล้วมีภารกิจถ่ายภาพพื้นผิวที่สว่างของดาวอังคารจากระยะเพียงไม่กี่ร้อยถึงหลักพันกิโลเมตร ได้ใช้กล้องถ่ายภาพของตนเฝ้าสังเกตการณ์ดาวหางที่อยู่ไกลลิบและมีความสว่างน้อยมาก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่แน่ใจว่าจะเก็บภาพอะไรมาได้บ้าง
ยาน TGO ประสบความสำเร็จในการเก็บภาพชุดต่อเนื่องด้วยกล้อง CaSSIS (Colour and Stereo Surface Imaging System) ภาพที่ได้แสดงให้เห็นดาวหาง 3I/ATLAS เป็นจุดสีขาวจาง ๆ ที่เคลื่อนลงมาบริเวณกลางภาพ จุดเล็ก ๆ นี้คือบริเวณศูนย์กลางของดาวหาง ซึ่งประกอบด้วย นิวเคลียส (nucleus) ที่เป็นน้ำแข็งผสมหิน และมีโคมา (coma) หรือฝ้าจาง ๆ ล้อมรอบ
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า เนื่องจากดาวหาง 3I/ATLAS อยู่ไกลมาก กล้อง CaSSIS จึงไม่สามารถแยกแยะนิวเคลียสที่มีขนาดเพียงไม่กี่กิโลเมตรออกจากโคมาได้เลย การพยายามถ่ายภาพนิวเคลียสก็เหมือนกับการพยายามมองเห็นโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนดวงจันทร์จากโลก ซึ่งเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ โคมา หรือบรรยากาศฝุ่นและแก๊สที่ล้อมรอบนิวเคลียส ซึ่งมีขนาดหลายพันกิโลเมตร โคมานี้เกิดขึ้นเมื่อดาวหางโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ความร้อนและรังสีจากดวงอาทิตย์ได้กระตุ้นให้น้ำแข็งบนดาวหางระเหิดกลายเป็นแก๊สและฝุ่น ซึ่งรวมตัวกันเป็นฝ้าสว่างรอบนิวเคลียส
โดยทั่วไป วัสดุจากโคมาจะถูกแรงดันรังสีจากดวงอาทิตย์กวาดออกไปด้านหลัง กลายเป็นหางดาวหาง (tail) ซึ่งอาจยาวได้หลายล้านกิโลเมตร แต่เนื่องจากหางมีความสว่างน้อยกว่าโคมามาก ภาพจาก CaSSIS จึงยังไม่สามารถมองเห็นหางได้ชัดเจน แต่ก็อาจจะปรากฏให้เห็นมากขึ้นในการสังเกตการณ์ครั้งต่อไปเมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น
ดาวหาง 3I/ATLAS มีความพิเศษอย่างยิ่ง เพราะมันมีกำเนิดจากนอกระบบสุริยะของเรา จึงถูกเรียกว่า ดาวหางระหว่างดาว (Interstellar Comet) มันเป็นดาวหางต่างระบบสุริยะดวงที่สามที่เคยถูกตรวจพบ ต่อจาก 1I/‘Oumuamua ในปี 2560 และ 2I/Borisov ในปี 2562
วัตถุเหล่านี้เป็นเหมือนคนนอกอย่างแท้จริง ขณะที่ดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์น้อย และดาวหางทั้งหมดในระบบสุริยะของเรามีต้นกำเนิดร่วมกัน แต่ดาวหางระหว่างดาวเหล่านี้ได้นำเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับกำเนิดของโลกอื่นที่อยู่ไกลโพ้นมาให้เรา
จากวงโคจรที่คำนวณได้ นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่า ดาวหาง 3I/ATLAS อาจเป็นดาวหางที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการสังเกต โดยอาจมีอายุมากกว่าระบบสุริยะของเราถึง 3,000 ล้านปี ในขณะที่ระบบสุริยะมีอายุประมาณ 4,600 ล้านปี
ข้อมูลอ้างอิง: ESA
- ESA’s ExoMars and Mars Express observe comet 3I/ATLAS