กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ขององค์การนาซา (NASA) และองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ได้เผยภาพกระจุกดาวทรงกลม (Globular Cluster) ที่เคยถูกหลงลืมและไม่เคยมีการสำรวจมาก่อน เผยให้เห็นหมู่ดาวหลากสีสันส่องประกายระยิบระยับ มอบข้อมูลสำคัญแก่นักดาราศาสตร์เพื่อไขความลับเกี่ยวกับยุคแรกเริ่มของกาแล็กซีของเรา
กระจุกดาวทรงกลมในภาพนี้มีชื่อว่า อีเอสโอ 591-12 (ESO 591-12) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า พาโลมาร์ 8 (Palomar 8) เป็นกลุ่มดาวฤกษ์ทรงกลมที่มีดาวฤกษ์รวมตัวกันอย่างหนาแน่นนับหมื่นถึงล้านดวง ยึดเหนี่ยวกันไว้ด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาล โดยทั่วไป กระจุกดาวเหล่านี้ก่อตัวขึ้นในช่วงต้นของประวัติศาสตร์กาแล็กซี ในบริเวณที่อุดมไปด้วยแก๊สและฝุ่น
ภาพถ่ายใหม่ล่าสุดจากกล้องฮับเบิลนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจที่ชื่อว่า “การสำรวจกระจุกดาวที่หายไปของฮับเบิล” (Hubble Missing Globular Clusters Survey) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสังเกตการณ์กระจุกดาวทรงกลมในกาแล็กซีทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy) ที่ได้รับการยืนยันแล้วแต่ยังไม่เคยถูกบันทึกภาพโดยฮับเบิลจำนวน 34 แห่ง
ภารกิจหลักของโครงการนี้ คือการรวบรวมข้อมูลการสังเกตการณ์ที่สมบูรณ์เกี่ยวกับอายุและระยะทางของกระจุกดาวทรงกลมทั้งหมดในทางช้างเผือก รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐานของกระจุกดาวที่ยังไม่เคยมีการสำรวจในบริเวณใจกลางและขอบของกาแล็กซี หรือที่เรียกว่า “กลดดาราจักร” (Galactic Halo)
กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลได้ปฏิวัติการศึกษากระจุกดาวทรงกลม เนื่องจากกล้องโทรทรรศน์บนพื้นโลกไม่สามารถแยกแยะดาวฤกษ์แต่ละดวงที่อยู่รวมกันอย่างหนาแน่นภายในกระจุกดาวเหล่านี้ได้ ความสามารถในการแยกภาพอันคมชัดของฮับเบิลทำให้นักดาราศาสตร์สามารถมองเห็นดาวฤกษ์แต่ละดวงได้ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจประวัติศาสตร์การก่อตัวของกาแล็กซีของเรา
ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตการณ์กระจุกดาวอย่าง อีเอสโอ 591-12 จะช่วยให้นักดาราศาสตร์ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับช่วงเวลาในยุคแรกเริ่มของกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กระจุกดาวเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้น การศึกษากระจุกดาวโบราณเหล่านี้เปรียบเสมือนการศึกษาฟอสซิลของจักรวาล ที่เก็บรักษาสภาพแวดล้อมในยุคบรรพกาลไว้ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถต่อเรื่องราววิวัฒนาการของกาแล็กซีที่เราอาศัยอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง: NASA
- Hubble Observations Give “Missing” Globular Cluster Time to Shine
About the Author
