
การเดินทางสู่อวกาศครั้งประวัติศาสตร์ของโครงการอะพอลโลได้สร้างนักสำรวจผู้กล้าหาญมากมาย แต่ในบรรดานักบินอวกาศเหล่านั้น มีเพียงคนเดียวที่ก้าวขึ้นไปบนดวงจันทร์ในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์” โดยตรง เขาผู้นั้นคือ ดร.ฮาร์ริสัน ชมิตต์ (Harrison Schmitt) นักธรณีวิทยาผู้สร้างประวัติศาสตร์ในภารกิจอะพอลโล 17
ประวัติศาสตร์การสำรวจดวงจันทร์ของโครงการอะพอลโลนั้น ส่วนใหญ่แล้วประกอบด้วยนักบินทดสอบที่มีทักษะการบินอันยอดเยี่ยม แต่สำหรับ ดร. ชมิตต์ นั้นแตกต่างออกไป เขาเป็นนักธรณีวิทยาที่นาซาคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่นักบิน ทำให้เขากลายเป็นมนุษย์คนแรกและคนเดียวที่เดินทางไปดวงจันทร์โดยมีพื้นฐานเป็นนักวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนแนวทางการสำรวจอวกาศจากเรื่องของ “การบิน” สู่เรื่องของ “การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์” อย่างแท้จริง
เนื่องจากบทบาทที่เปลี่ยนไปนี้ ดร.ชมิตต์ จึงต้องเข้ารับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจ เขาเข้ารับการฝึกการบินเป็นเวลาถึง 53 สัปดาห์ และสะสมชั่วโมงบินได้มากกว่า 2,100 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าถึงแม้จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่เขาก็ต้องมีทักษะและความสามารถเทียบเท่ากับนักบินคนอื่น ๆ ที่ร่วมภารกิจ การฝึกฝนอันหนักหน่วงนี้ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกที่สมบูรณ์แบบของลูกเรืออะพอลโล 17
ในภารกิจอะพอลโล 17 ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายของการลงจอดบนดวงจันทร์ ดร.ชมิตต์ ได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาของเขาอย่างเต็มที่ เขาและผู้บัญชาการ ยูจีน เซอร์แนน (Eugene Cernan) ได้นำยานลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ในวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1972 ณ บริเวณที่เรียกว่าหุบเขา Taurus-Littrow ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่บนดวงจันทร์รวมกันนานถึง 75 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โครงการอะพอลโลตลอด 6 ภารกิจที่ผ่านมา
ในห้วงเวลา 3 วันนั้น ดร.ชมิตต์และเซอร์แนน ได้ทำกิจกรรมสำรวจนอกยาน (Extra-vehicular Activity – EVA) หรือที่เรียกกันว่า “การเดินบนดวงจันทร์” รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง กินเวลารวมกว่า 22 ชั่วโมง พวกเขาขับรถสำรวจดวงจันทร์ (Lunar Roving Vehicle) เป็นระยะทางรวม 30.5 กิโลเมตร และเก็บตัวอย่างหินและดินบนดวงจันทร์กลับมายังโลกได้มากถึง 110.4 กิโลกรัม ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือหิน “ส้ม” ที่พบในบริเวณดังกล่าว และต่อมานักวิทยาศาสตร์พบว่าเป็นอนุภาคแก้วภูเขาไฟขนาดเล็กที่บ่งชี้ถึงการเกิดกิจกรรมของภูเขาไฟบนดวงจันทร์เมื่อหลายพันล้านปีก่อน ความรู้และสายตาของนักธรณีวิทยาทำให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์อย่างยิ่งยวด
การมีนักวิทยาศาสตร์อย่าง ดร.ชมิตต์ ร่วมทีมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณค่าทางวิชาการให้กับภารกิจ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ให้ตระหนักว่าอวกาศไม่ใช่แค่เรื่องของวิศวกรหรือนักบินเท่านั้น แต่ยังเป็นสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่สำหรับนักวิทยาศาสตร์ทุกแขนง การเดินทางของเขาเป็นบทพิสูจน์ว่าการสำรวจอวกาศในอนาคตจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาเพื่อไขปริศนาที่ยังคงซ่อนอยู่ในจักรวาล
ข้อมูลอ้างอิง: NASA
- Harrison Schmitt