
ในวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1979 หรือเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว ยานสำรวจอวกาศวอยเอเจอร์ 2 (Voyager 2) ขององค์การนาซา ได้เดินทางไปถึงจุดที่เข้าใกล้ดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะของเรามากที่สุด นั่นคือ ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ในช่วงเวลาแห่งการเผชิญหน้าระยะประชิดนี้ ยานวอยเอเจอร์ 2 ได้บันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงขนาดอันมหึมาและบรรยากาศที่ปั่นป่วนของดาวพฤหัสบดี เคียงคู่กับดวงจันทร์บริวารดวงหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษที่สุด นั่นคือ ไอโอ (Io)
ภาพถ่ายนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของขนาดระหว่างดาวเคราะห์แก๊สยักษ์กับดวงจันทร์บริวารของมัน แต่ยังเป็นภาพที่บันทึก “คู่หู” แห่งระบบสุริยะชั้นนอกที่น่าสนใจที่สุดคู่หนึ่ง พื้นผิวของดาวพฤหัสบดีในภาพเต็มไปด้วยแถบเมฆสีขาวและสีส้มที่ไหลวนอย่างซับซ้อน ซึ่งเป็นผลมาจากพายุขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ดวงนี้
แต่สิ่งที่ขโมยซีนในภาพนี้ไปไม่น้อยคือ ดวงจันทร์ไอโอ ที่ปรากฏเป็นดวงกลมสีเหลืองอมส้มอยู่เบื้องหน้า ไอโอไม่ใช่ดวงจันทร์น้ำแข็งที่เยือกเย็นเหมือนดวงจันทร์ส่วนใหญ่ในระบบสุริยะชั้นนอก แต่เป็นวัตถุทางธรณีวิทยาที่มีการปะทุของภูเขาไฟ รุนแรงที่สุดในระบบสุริยะ
ภารกิจวอยเอเจอร์ได้ปฏิวัติความเข้าใจของเราเกี่ยวกับดวงจันทร์ไอโอไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ นักดาราศาสตร์คาดว่ามันเป็นเพียงวัตถุหินที่เยือกแข็ง แต่ยานวอยเอเจอร์ 1 (Voyager 1) ซึ่งเดินทางไปถึงก่อนหน้ายานวอยเอเจอร์ 2 เพียงไม่กี่เดือน ได้ค้นพบการปะทุของภูเขาไฟบนไอโอเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถือเป็นการค้นพบภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่นอกโลกเป็นครั้งแรก
การที่ไอโอมีภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลานั้นเกิดจากแรงไทดัล (Tidal Force) อันมหาศาลจากดาวพฤหัสบดี รวมถึงดวงจันทร์ขนาดใหญ่อื่นๆ อย่างยูโรปาและแกนีมีด แรงดึงดูดที่ไม่สม่ำเสมอนี้ทำให้พื้นผิวของไอยืดและหดตัวอย่างรุนแรง สร้างความร้อนมหาศาลภายในดวงจันทร์จนหินหลอมละลายกลายเป็นแมกมาและปะทุออกมาเป็นภูเขาไฟกำมะถันที่พวยพุ่งสูงหลายร้อยกิโลเมตรขึ้นไปในอวกาศ
ภาพถ่ายจากยานวอยเอเจอร์ 2 ในวันนั้น จึงไม่ใช่แค่ภาพดาวเคราะห์กับดวงจันทร์ธรรมดา แต่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่า แม้ในดินแดนที่หนาวเย็นและห่างไกลจากดวงอาทิตย์ ก็ยังมีโลกที่เต็มไปด้วยพลังงานและความเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งซ่อนอยู่ การเดินทางของยานวอยเอเจอร์ได้เปิดประตูสู่ความเข้าใจใหม่ๆ และทิ้งภาพถ่ายอันเป็นสัญลักษณ์ไว้ให้เราได้ศึกษาและจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของเอกภพต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง: NASA Jet Propulsion Laboratory (JPL)
- Voyager Mission