นักดาราศาสตร์และช่างภาพดาราศาสตร์ทั่วโลกกำลังจับตาดู “ดาวหางเลมมอน” หรือที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า C/2025 A6 (Lemmon) ซึ่งกำลังสร้างความตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ภาพถ่ายสุดคมชัดจากดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความเด่นชัดของมัน แม้ว่าดาวหางดวงนี้จะเพิ่งเข้าใกล้โลกที่สุดไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 และขณะนี้กำลังมุ่งหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์เพื่อทำสถิติเข้าใกล้ที่สุดในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่คาดการณ์ว่าจะสว่างที่สุด
ดาวหางคือ “ก้อนน้ำแข็งสกปรก” หรือวัตถุในระบบสุริยะที่ประกอบด้วยน้ำแข็ง ก๊าซ และฝุ่น เมื่อดาวหางเคลื่อนที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ความร้อนจะทำให้ก้อนน้ำแข็งระเหิดกลายเป็นแก๊สและฝุ่นจำนวนมหาศาล ก่อตัวเป็นหางที่สวยงามทอดออกไปในอวกาศ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า การคายแก๊ส (Outgassing)
สำหรับดาวหางเลมมอน C/2025 A6 (Lemmon) นั้น การที่มันจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ทำให้มีความหวังว่าดาวหางจะเกิดการคายแก๊สอย่างรุนแรง และเพิ่มความสว่างให้เรามองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือที่เรียกกันว่า การปะทุความสว่าง (Outburst)
จากรายงานล่าสุดของเว็บไซต์ COBS (Comet Observation Database) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลการบันทึกความสว่างของดาวหางทั่วโลก ได้รายงานว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ค่าความสว่างของดาวหางเลมมอนกลับค่อนข้างคงที่ และไม่ได้สว่างเพิ่มขึ้นอย่างที่คาดการณ์ไว้ นักดาราศาสตร์จึงเริ่มมองไปถึงความเป็นไปได้ที่ว่า ดาวหางดวงนี้อาจได้ผ่านช่วงสว่างที่สุดไปแล้ว
สำหรับผู้ที่สนใจเฝ้าชมดาวหางเลมมอน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ หัวค่ำทางทิศตะวันตกหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า โดยดาวหางจะปรากฏอยู่ในบริเวณกลุ่มดาวงู (Serpens) ในขณะนี้ยังไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถใช้กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ส่องหาได้ และการถ่ายภาพโดยการเปิดหน้ากล้องทิ้งไว้นาน ๆ (Long-exposure photography) ยังคงสามารถจับภาพหางของดาวหางได้อย่างสวยงาม ดังเช่นที่บันทึกได้จากดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่
ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน 2568 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องติดตามชะตากรรมของดาวหางเลมมอนอย่างใกล้ชิด หากมันไม่เกิดการปะทุความสว่างอีกครั้งในช่วงเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดนี้ ดาวหางก็จะค่อย ๆ จางหายไปจากสายตาของเรา ดังนั้น นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่คนรักดาราศาสตร์ในประเทศไทยจะได้บันทึกภาพและร่วมลุ้นความสว่างของดาวหางที่ได้ชื่อว่ามีความคมชัดสูงดวงนี้
ข้อมูลอ้างอิง: สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.)