
ทีมนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซา วิเคราะห์ข้อมูลจากยานนิวฮอไรซันส์ (New Horizons) เผยการค้นพบภูมิประเทศที่มีลักษณะโดดเด่นและแปลกตาบริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรของดาวพลูโต ซึ่งเป็นเทือกเขาน้ำแข็งมีเทน ที่มีลักษณะเป็นสันแหลมคมสูงเสียดฟ้า เทียบเท่ากับตึกระฟ้าบนโลก
ภูมิประเทศลักษณะนี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “เพนนิเทนเทส” (penitentes) เป็นสันน้ำแข็งสูงชันที่ก่อตัวเรียงรายเป็นแนวยาว พบได้ในพื้นที่ที่หนาวเย็นและมีความสูงมากบนโลก เช่น เทือกเขาแอนดีส (Andes) แต่การค้นพบบนดาวพลูโตนั้นแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างในระดับที่ใหญ่กว่ามาก โดยสันน้ำแข็งเหล่านี้บางแห่งมีความสูงถึง 500 เมตร
ทีมวิจัยนำโดย จอห์น มัวร์ (John Moores) นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์จากมหาวิทยาลัยยอร์ก ประเทศแคนาดา ได้สร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่ออธิบายกระบวนการเกิดสันเขาน้ำแข็งเหล่านี้บนดาวพลูโต ผลการศึกษาชี้ว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดจากวัฏจักรของสภาพอากาศที่เฉพาะตัวของดาวเคราะห์แคระดวงนี้
บนดาวพลูโต ก๊าซมีเทนในบรรยากาศอันเบาบางจะแข็งตัวและตกลงมาสะสมบนพื้นผิวในลักษณะเดียวกับหิมะในฤดูหนาวที่ยาวนานหลายสิบปีของโลก เมื่อแสงอาทิตย์ที่อยู่ห่างไกลสาดส่องมายังพื้นผิว น้ำแข็งมีเทนจะเกิดการระเหิดซึ่งเป็นกระบวนการที่ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊สโดยตรงโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว
กระบวนการระเหิดนี้จะกัดเซาะพื้นผิวน้ำแข็งอย่างช้าๆ ทิ้งส่วนที่หนาแน่นและสูงกว่าไว้เบื้องหลัง กลายเป็นสันแหลมคมที่ชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลายาวนานหลายล้านปี
การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นถึงลักษณะทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อนของดาวพลูโต แต่ยังมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางสภาพอากาศของดาวอีกด้วย
สันเขาน้ำแข็งมีเทนขนาดยักษ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า บรรยากาศของดาวพลูโตเคยมีความหนาแน่นมากกว่าในอดีต
ข้อมูลจากยานนิวฮอไรซันส์ที่โคจรผ่านดาวพลูโตในปี พ.ศ. 2558 ยังคงถูกส่งกลับมาวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง และยังคงสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิทยาศาสตร์ เผยให้เห็นว่าดาวเคราะห์แคระที่อยู่สุดขอบระบบสุริยะแห่งนี้ เป็นโลกที่มีความเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ก้อนน้ำแข็งที่เยือกเย็นและหยุดนิ่งอย่างที่เคยเข้าใจกัน
————–
ข้อมูลอ้างอิง: JPL/NASA/Johns Hopkins University
– Skyscraper-size spikes of methane ice may surround Pluto’s equator
👨🚀 กดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ และติดตามเพจ เพื่อเป็นการสนับสนุนและให้กำลังใจครับ 🙏