
นักวิทยาศาสตร์เสนอคำอธิบายใหม่ที่อาจช่วยไขปริศนาที่ยาวนานที่สุดข้อหนึ่งเกี่ยวกับดาวอังคาร นั่นคือ น้ำจำนวนมหาศาลที่เคยไหลอยู่บนพื้นผิวได้หายไปไหน โดยชี้ว่าคำตอบอาจซ่อนอยู่ในการแกว่งตัวของแกนหมุนของดาวเคราะห์ดวงนี้
เป็นที่ทราบกันดีจากหลักฐานทางธรณีวิทยามากมายว่า ในอดีตหลายพันล้านปีก่อน ดาวอังคารเคยเป็นดาวเคราะห์ที่อบอุ่นและชุ่มชื้น มีทั้งแม่น้ำ ทะเลสาบ และอาจมีมหาสมุทร แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นดาวเคราะห์ที่แห้งแล้งและหนาวเย็น ปริศนาที่ว่าน้ำเหล่านั้นหายไปได้อย่างไรจึงเป็นคำถามสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์พยายามหาคำตอบมาโดยตลอด
งานวิจัยล่าสุดที่วิเคราะห์ข้อมูลจากยานสำรวจดาวอังคารขององค์การนาซา ได้เสนอทฤษฎีว่า การเปลี่ยนแปลงความเอียงของแกนหมุนของดาวอังคาร (axial tilt) อย่างรุนแรงตลอดช่วงหลายล้านปีที่ผ่านมา คือกลไกสำคัญที่ทำให้น้ำบนดาวเคราะห์ดวงนี้สูญสลายไปในอวกาศ
โลกของเรามีแกนหมุนที่ค่อนข้างเสถียร โดยเอียงทำมุมประมาณ 23.5 องศา ซึ่งเป็นผลมาจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ที่ช่วยยึดไว้ แต่ดาวอังคารไม่มีดวงจันทร์ขนาดใหญ่มาช่วยสร้างเสถียรภาพ ทำให้แกนหมุนของมันแกว่งไปมาอย่างมากในช่วงหลายล้านปี โดยอาจเอียงได้มากถึง 60 องศา
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า ในช่วงเวลาที่ดาวอังคารมีแกนเอียงมาก ขั้วน้ำแข็งของดาว (polar ice caps) ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำแข็งและคาร์บอนไดออกไซด์แข็งที่ใหญ่ที่สุด จะหันเข้าหาดวงอาทิตย์โดยตรงและได้รับพลังงานความร้อนมากขึ้น ส่งผลให้น้ำแข็งเกิดการระเหิด กลายเป็นไอน้ำลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศตอนบนอย่างรวดเร็ว
เมื่อไอน้ำเหล่านี้ลอยสูงขึ้นไปในชั้นบรรยากาศที่เบาบางของดาวอังคาร มันจะถูกรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์แยกสลายโมเลกุลของน้ำออกเป็นอะตอมของไฮโดรเจนและออกซิเจน ด้วยแรงโน้มถ่วงที่น้อยของดาวอังคาร อะตอมไฮโดรเจนซึ่งมีน้ำหนักเบามากจึงสามารถหลุดหนีจากชั้นบรรยากาศสู่อวกาศได้อย่างง่ายดาย
ข้อมูลจากยานเมเวน (MAVEN – Mars Atmosphere and Volatile EvolutioN) ของนาซา ซึ่งถูกส่งไปเพื่อศึกษาชั้นบรรยากาศของดาวอังคารโดยเฉพาะ ยืนยันว่ากระบวนการสูญเสียไฮโดรเจนสู่ห้วงอวกาศนี้เกิดขึ้นจริง และเมื่อนำปรากฏการณ์นี้มาพิจารณาร่วมกับแบบจำลองการแกว่งของแกนดาวอังคารในอดีต ก็พบว่ามันสามารถอธิบายการสูญเสียน้ำในปริมาณมหาศาลตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของดาวเคราะห์ได้
การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับชะตากรรมของน้ำบนดาวอังคาร แต่ยังเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของดาวเคราะห์เพื่อนบ้านดวงนี้ จากโลกที่อาจเคยเอื้อต่อสิ่งมีชีวิต สู่ดาวเคราะห์ที่แห้งแล้งดังเช่นทุกวันนี้
ข้อมูลอ้างอิง: Live Science
- Mystery of Mars’ missing water could be solved by the planet’s tipsy tilt