
ทีมนักดาราศาสตร์นำโดยสถาบันวิจัยตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Research Institute) ได้ค้นพบดวงจันทร์บริวารดวงใหม่ล่าสุดของดาวยูเรนัส (Uranus) ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้มีดวงจันทร์ที่รู้จักแล้วรวมทั้งสิ้น 29 ดวง การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยขีดความสามารถอันทรงพลังของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ ของนาซา
การค้นพบดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายชุดหนึ่งที่บันทึกโดยใช้เทคนิคการเปิดรับแสงนานของกล้องถ่ายภาพย่านใกล้อินฟราเรด หรือ เนียร์แคม (Near-Infrared Camera – NIRCam) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์
ดวงจันทร์ดวงใหม่นี้มีขนาดเล็กมาก โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มันรอดพ้นจากการตรวจจับของยานวอยเอเจอร์ 2 (Voyager 2) และกล้องโทรทรรศน์อื่น ๆ ที่เคยสำรวจดาวยูเรนัสในอดีต
เบื้องต้น ดวงจันทร์ดวงนี้ได้รับชื่อเรียกชั่วคราวว่า เอส/2025 ยู 1 (S/2025 U1) จัดเป็นดวงจันทร์บริวารชั้นในดวงที่ 14 ของระบบ ซึ่งโคจรอยู่ใกล้ดาวยูเรนัสมากกว่ากลุ่มดวงจันทร์ขนาดใหญ่ โดยตำแหน่งวงโคจรของมันอยู่ห่างจากใจกลางของดาวยูเรนัสประมาณ 56,000 กิโลเมตร แทรกอยู่ระหว่างวงโคจรของดวงจันทร์โอฟีเลีย (Ophelia) และเบียงกา (Bianca) วงโคจรที่เกือบเป็นวงกลมของมันชี้ให้เห็นว่ามันอาจก่อตัวขึ้นในตำแหน่งปัจจุบัน
การค้นพบครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มจำนวนสมาชิกในครอบครัวดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพอันก้าวล้ำของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ในการตรวจจับวัตถุที่ริบหรี่และอยู่ห่างไกลในระบบสุริยะของเรา
ขั้นตอนต่อไป สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (International Astronomical Union) จะทำการตรวจสอบและอนุมัติชื่ออย่างเป็นทางการให้กับดวงจันทร์ดวงใหม่นี้ต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง: NASA Webb Mission Team
- New Moon Discovered Orbiting Uranus Using NASA’s Webb Telescope