• เกี่ยวกับเวิร์ดเพรส
    • WordPress.org
    • เอกสารประกอบ
    • Learn WordPress
    • สนับสนุน
    • ผลตอบรับ
  • Log In
Skip to content
SPACEMAN

SPACEMAN

ท่องโลกดาราศาสตร์และอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
เพจ SPACEMAN
  • Home
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
  • กระจุกดาววัยเยาว์ปริศนา NGC 1866 เผยเงื่อนงำการก่อกำเนิดดาวฤกษ์รุ่นใหม่ในจักรวาล
  • ดาราศาสตร์
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

กระจุกดาววัยเยาว์ปริศนา NGC 1866 เผยเงื่อนงำการก่อกำเนิดดาวฤกษ์รุ่นใหม่ในจักรวาล

มนุษย์อวกาศ 22 เมษายน 2025
Different generations

ภาพอันงดงามที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) อันเป็นผลงานร่วมกันของ NASA และ ESA ได้ถ่ายภาพอันน่าทึ่งของกระจุกดาวทรงกลมที่มีชื่อว่า NGC 1866 ซึ่งเป็นกลุ่มดาวฤกษ์จำนวนมหาศาลนับแสนดวงที่ถูกแรงโน้มถ่วงยึดเหนี่ยวไว้ด้วยกัน โครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้ดาษดื่นทั่วไปในเอกภพ แต่ละแห่งประกอบด้วยดาวฤกษ์จำนวนมากที่ถือกำเนิดมาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันและมีปฏิสัมพันธ์กันทางแรงโน้มถ่วงอย่างซับซ้อน

NGC 1866 ตั้งอยู่บริเวณขอบเขตด้านนอกของเมฆแมเจลแลนใหญ่ (Large Magellanic Cloud) ซึ่งเป็นกาแล็กซีแคระ (small galaxy) ที่โคจรอยู่ใกล้เคียงกับกาแล็กซีทางช้างเผือก (Milky Way) ของเรา กระจุกดาวแห่งนี้ได้รับการค้นพบในปี ค.ศ. 1826 โดยนักดาราศาสตร์ชาวสกอตแลนด์ผู้มีชื่อเสียง เจมส์ ดันลอป (James Dunlop) ผู้ซึ่งได้ทำการรวบรวมและจัดทำบัญชีรายชื่อดาวฤกษ์และวัตถุท้องฟ้าลึก (deep-sky objects) นับพันรายการตลอดช่วงเวลาที่เขาอุทิศตนให้กับการศึกษาดาราศาสตร์


เจมส์ ดันลอป นักดาราศาสตร์ชาวสกอตแลนด์

สิ่งที่ทำให้ NGC 1866 แตกต่างจากกระจุกดาวอื่นๆ คือลักษณะที่ไม่ธรรมดาของมัน มันถูกจัดว่าเป็นกระจุกดาวทรงกลม (globular cluster) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักประกอบด้วยดาวฤกษ์เก่าแก่ แต่ NGC 1866 กลับมีดาวฤกษ์ที่อายุน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และที่สำคัญคือมันอยู่ใกล้กับโลกของเรามากพอที่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถทำการศึกษาดาวฤกษ์แต่ละดวงที่ประกอบกันเป็นกระจุกดาวนี้ได้อย่างละเอียด การศึกษาดาวฤกษ์แต่ละดวงในกระจุกดาวที่อยู่ห่างไกลเช่นนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากระยะทางอันไกลโพ้นของห้วงอวกาศ

ประเด็นสำคัญที่นักดาราศาสตร์ยังคงถกเถียงกันอยู่คือกระบวนการก่อตัวของกระจุกดาวทรงกลม แม้ว่าจะมีทฤษฎีต่างๆ มากมาย แต่การสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง เช่น ข้อมูลที่ได้จากภาพของ NGC 1866 ได้เผยให้เห็นว่าดาวฤกษ์ส่วนใหญ่ในกระจุกดาวเหล่านี้มีอายุมากและมีปริมาณโลหะต่ำ ในบริบททางดาราศาสตร์ คำว่า “โลหะ” (metals) หมายถึงธาตุใดๆ ในตารางธาตุที่ไม่ใช่ธาตุไฮโดรเจน (hydrogen) และฮีเลียม (helium) เนื่องจากดาวฤกษ์สร้างธาตุที่หนักกว่าภายในแกนกลางของพวกมันผ่านปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน (nuclear fusion) ในช่วงชีวิตของพวกมัน ปริมาณโลหะที่ต่ำจึงเป็นตัวบ่งชี้ว่าดาวฤกษ์ดวงนั้นมีอายุเก่าแก่มาก เนื่องจากสสารเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดดาวฤกษ์นั้นไม่ได้อุดมไปด้วยธาตุหนักมากนัก นักวิทยาศาสตร์บางคนเสนอว่าดาวฤกษ์ภายในกระจุกดาวทรงกลมอาจมีอายุเก่าแก่มากจนเป็นดาวฤกษ์กลุ่มแรกๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์บิกแบง (Big Bang) ซึ่งเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเอกภพ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ NGC 1866 ดาวฤกษ์ทั้งหมดไม่ได้มีลักษณะเหมือนกัน นักดาราศาสตร์เชื่อว่ามีประชากรดาวฤกษ์ (populations of stars) หรือดาวฤกษ์หลายรุ่น (generations of stars) ที่อยู่ร่วมกันภายในกระจุกดาวนี้ ทฤษฎีหนึ่งเสนอว่า ภายหลังจากที่ดาวฤกษ์รุ่นแรกก่อตัวขึ้น กระจุกดาว NGC 1866 อาจเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีเมฆก๊าซขนาดยักษ์ (giant gas cloud) ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการก่อตัวของดาวฤกษ์ระลอกใหม่ และให้กำเนิดดาวฤกษ์รุ่นที่สองที่มีอายุน้อยกว่า ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายว่าทำไมกระจุกดาวนี้จึงปรากฏว่ามีอายุน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ตามทฤษฎีการก่อตัวของกระจุกดาวทรงกลมทั่วไป การค้นพบนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจพลวัตและการวิวัฒนาการของกระจุกดาวในเอกภพ

การศึกษา NGC 1866 อย่างละเอียดจึงไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอายุและองค์ประกอบของดาวฤกษ์ในกระจุกดาวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงกระบวนการที่ซับซ้อนของการก่อกำเนิดดาวฤกษ์และการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกระจุกดาวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบในกาแล็กซี การค้นพบดาวฤกษ์อายุน้อยในกระจุกดาวทรงกลมที่โดยทั่วไปเชื่อกันว่าประกอบด้วยดาวฤกษ์เก่าแก่เป็นหลัก ถือเป็นปริศนาที่ท้าทายความเข้าใจเดิม และกระตุ้นให้นักดาราศาสตร์ทำการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อไขความลับเบื้องหลังการก่อตัวและวิวัฒนาการของโครงสร้างสำคัญเหล่านี้ในจักรวาลอันกว้างใหญ่


เครดิตภาพและข้อมูล: ESA/Hubble & NASA

จำนวนเข้าชม: 185

Continue Reading

Previous: “เนินกะโหลก” ปริศนาหินสีเข้มบนดาวอังคาร
Next: ยานลูซีเผยโฉมดาวเคราะห์น้อย Donaldjohanson รูปทรงประหลาด!

เรื่องน่าอ่าน

jsc2025e004075
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
  • เทคโนโลยีอวกาศ

เจาะลึก! กระจกหน้าต่างยานอวกาศโอไรออน (Orion) หัวใจสำคัญแห่งการสำรวจอวกาศด้วยเทคโนโลยีวัสดุล้ำสมัย

มนุษย์อวกาศ 19 มิถุนายน 2025
UGC 2885
  • ดาราศาสตร์
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

กาแล็กซี UGC 2885 ยักษ์ใหญ่แห่งเอกภพใกล้บ้านเรา

มนุษย์อวกาศ 19 มิถุนายน 2025
JohnYoung-Apollo16
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
  • โครงการอะพอลโล

นักบินอวกาศจอห์น ยัง กับ ALSEP ชุดอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์บนดวงจันทร์ ในภารกิจอะพอลโล 16

มนุษย์อวกาศ 19 มิถุนายน 2025

Tags

JAXAMarsNASASpaceXกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์กาแล็กซีข้าวอวกาศจักรวาลดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ดาราศาสตร์ดาวพฤหัสบดีดาวอังคารดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดาวเคราะห์น้อยนักบินอวกาศนาซาระบบสุริยะสถานีอวกาศนานาชาติหลุมดำ

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (4,399)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,348)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,830)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,794)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,652)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.