ข่าวอวกาศ

ฮับเบิลเผยภาพสุดตระการตา ไขปริศนา อายุขัยดวงดาวในกาแล็กซีเกลียวสีทองและน้ำเงิน

กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลถ่ายภาพกาแล็กซี NGC 6000 เผยให้เห็นดวงดาวหลากช่วงอายุ พร้อมร่องรอยซูเปอร์โนวา และแขกไม่ได้รับเชิญที่แอบมาปรากฏตัวในเฟรมภาพ

องค์การนาซาได้เผยแพร่ภาพถ่ายใหม่จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ที่แสดงให้เห็นความงามของกาแล็กซีเกลียว (Spiral Galaxy) ที่มีชื่อว่า NGC 6000 ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 102 ล้านปีแสง ในกลุ่มดาวแมงป่อง (Scorpius) ภาพนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความงดงามทางสายตาเท่านั้น แต่ยังเป็นสมุดบันทึกที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาอายุ มวล และอุณหภูมิของดวงดาว ภายในกาแล็กซีได้อีกด้วย โดยสีสันที่แตกต่างกันในกาแล็กซีแห่งนี้ได้เผยให้เห็นวัฏจักรชีวิตของดวงดาวตั้งแต่การเกิดจนถึงการดับสลาย

ภาพถ่ายของ NGC 6000 แสดงให้เห็นสีที่ตัดกันอย่างชัดเจน ใจกลางกาแล็กซีเป็นสีเหลืองทองเรืองรอง ขณะที่แขนกังหันที่อยู่ด้านนอกกลับสว่างไสวด้วยแสงสีน้ำเงิน ความแตกต่างของสีเหล่านี้เป็นดั่งแผนที่ที่บ่งบอกถึงอายุของดวงดาว

  • สีเหลืองทอง
    บริเวณใจกลางของกาแล็กซีเต็มไปด้วยดวงดาวที่มีอายุมากกว่าและมีมวลน้อยกว่า ตามหลักการทางฟิสิกส์ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อยกว่าจะมีอุณหภูมิพื้นผิวที่เย็นกว่า ซึ่งจะปล่อยแสงออกมาเป็นสีแดงมากกว่า เมื่อรวมกันแล้วจึงปรากฏเป็นสีเหลืองทองนั่นเอง
  • สีน้ำเงินสดใส
    บริเวณแขนเกลียวที่อยู่รอบนอกเต็มไปด้วยกระจุกดาว (Star Clusters) ที่เป็นแหล่งกำเนิดของดาวฤกษ์อายุน้อยและมีมวลสูง ดาวเหล่านี้จะมีอุณหภูมิที่ร้อนจัด และจะปล่อยแสงออกมาเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วงแกมน้ำเงิน ทำให้บริเวณนี้ดูเปล่งประกายสดใส

การเปรียบเทียบขนาดของดาวฤกษ์กับสิ่งใกล้ตัว อาจเปรียบได้ว่าดาวที่ใจกลางกาแล็กซีคือ ดาวดวงเล็กที่ใช้ชีวิตอย่างสงบและมีอายุยืนยาว ส่วนดาวสีน้ำเงินที่แขนเกลียวคือ “ดาวขนาดยักษ์” ที่เผาผลาญเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็วและใช้ชีวิตอย่างโลดโผนก่อนจะดับสลายไปอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลที่ฮับเบิลรวบรวมได้ในครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อสำรวจตำแหน่งที่เคยเกิดการระเบิดของดาวฤกษ์ หรือ ซูเปอร์โนวา (Supernova) ในกาแล็กซีใกล้เคียง กาแล็กซี NGC 6000 เคยเป็นสถานที่เกิดซูเปอร์โนวาถึงสองครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา (SN 2007ch และ SN 2010as)

นักวิจัยใช้ความไวสูงของอุปกรณ์ตรวจจับของฮับเบิลในการสังเกตแสงจาง ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังจากการระเบิดผ่านไปหลายปี การศึกษาแสงหลังความตายของซูเปอร์โนวาเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถจำกัดค่ามวลของดาวฤกษ์ดั้งเดิม ก่อนที่จะระเบิดได้ รวมถึงสามารถระบุได้ว่าดาวฤกษ์นั้นมีดาวคู่ (Stellar Companions) โคจรอยู่ข้างๆ หรือไม่

นอกจากความสวยงามของกาแล็กซีแล้ว นักดาราศาสตร์ยังพบร่องรอยที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งปรากฏอยู่ในภาพ เส้นสีเหลืองและสีน้ำเงินจาง ๆ สี่เส้น บริเวณด้านขวาของจานกาแล็กซี เส้นเหล่านี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ NGC 6000 แต่เป็นดาวเคราะห์น้อย (Asteroid) ที่โคจรอยู่ในระบบสุริยะของเราเอง และได้ เคลื่อนที่ตัดผ่านมุมมองของกล้องฮับเบิลในขณะที่กำลังบันทึกภาพกาแล็กซี

ภาพถ่ายจากฮับเบิลนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำถึงความสามารถอันน่าทึ่งของกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ที่ทำงานมาอย่างยาวนานกว่า 3 ทศวรรษเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจการก่อตัวและวิวัฒนาการของดวงดาวและกาแล็กซี การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสีและอายุของดวงดาวใน NGC 6000 จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถปรับปรุงแบบจำลองของการวิวัฒนาการของกาแล็กซี (Galactic Evolution) และการกำเนิดของธาตุหนักต่าง ๆ ในเอกภพได้ดียิ่งขึ้นไปอีก


ข้อมูลอ้างอิง: NASA Hubble Mission Team

  • Hubble Studies Star Ages in Colorful Galaxy