ภาพล่าสุดจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) ได้เปิดเผยมิติใหม่ของความงดงามในห้วงอวกาศ เผยให้เห็นรายละเอียดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของ เอ็นจีซี 6072 (NGC 6072) เนบิวลาดาวเคราะห์ที่ดูคล้ายผีเสื้อกำลังสยายปีก ภาพนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมอบกุญแจสำคัญที่ช่วยให้นักดาราศาสตร์ไขปริศนาเกี่ยวกับรูปทรงอันแปลกตาของมันได้อีกด้วย
หลายคนอาจเข้าใจผิดจากชื่อว่า “เนบิวลาดาวเคราะห์” (Planetary Nebula) จะต้องเกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์ แต่ความจริงแล้วมันคือซากที่หลงเหลือจากวาระสุดท้ายของดาวฤกษ์ที่มีมวลใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ของเรา เมื่อดาวฤกษ์ในระยะนี้ใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์จนใกล้หมด มันจะขยายตัวออกเป็นดาวยักษ์แดง (Red Giant) ก่อนที่จะปลดปล่อยแก๊สชั้นนอกของตัวเองออกสู่อวกาศ เหลือเพียงแก่นกลางที่ร้อนจัดซึ่งเรียกว่า ดาวแคระขาว (White Dwarf) รังสีพลังงานสูงจากดาวแคระขาวนี้จะทำให้กลุ่มแก๊สที่ถูกเป่าออกไปเรืองแสงขึ้นมา เกิดเป็นวัตถุท้องฟ้าที่สวยงามที่เราเรียกว่าเนบิวลาดาวเคราะห์
โดยทั่วไปแล้ว หากดาวฤกษ์ต้นกำเนิดอยู่เพียงลำพัง เนบิวลาที่เกิดขึ้นมักจะมีรูปทรงสมมาตร เช่น ทรงกลม แต่สำหรับ NGC 6072 ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 3,000 ปีแสง ในกลุ่มดาวแมงป่อง (Constellation Scorpius) กลับมีรูปทรงที่ไม่สมมาตรและซับซ้อนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้นักดาราศาสตร์ตั้งสมมติฐานว่าต้องมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
ภาพถ่ายอินฟราเรดความละเอียดสูงจากกล้องเจมส์ เวบบ์ ได้แสดงให้เห็นโครงสร้างใยแก๊สและฝุ่นอันสลับซับซ้อนของ NGC 6072 อย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน โครงสร้างสีส้มแดงที่เห็นเป็นหลักในภาพ คือการกระจายตัวของโมเลกุลไฮโดรเจนที่เย็นกว่า ซึ่งถูกผลักดันออกไปไกลจากศูนย์กลาง ส่วนบริเวณสีน้ำเงินใจกลาง คือแก๊สที่ร้อนกว่าและแตกตัวเป็นไอออน (Ionized gas) ซึ่งอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์ศูนย์กลางมากกว่า
การศึกษาโครงสร้างของเนบิวลาดาวเคราะห์เช่นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันช่วยให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ (Stellar evolution) ในระยะสุดท้ายได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระบบดาวคู่ซึ่งพบได้ทั่วไปในกาแล็กซีของเรา นอกจากนี้ ธาตุต่างๆ ที่ก่อกำเนิดขึ้นภายในดาวฤกษ์ เช่น คาร์บอนและไนโตรเจน จะถูกปลดปล่อยกลับคืนสู่สสารระหว่างดาว (Interstellar medium) ผ่านปรากฏการณ์นี้ กลายเป็นวัตถุดิบสำหรับการก่อกำเนิดดาวฤกษ์และดาวเคราะห์รุ่นต่อไป
การค้นพบของกล้องเจมส์ เวบบ์ ในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ว่า เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสามารถช่วยให้เรามองเห็นและเข้าใจจักรวาลในมุมมองใหม่ๆ ได้เสมอ
ข้อมูลอ้างอิง: NASA, ESA, CSA, STScI
- Webb traces details of complex planetary nebula