Skip to content
SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

ข่าวอวกาศ ความรู้ดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • กล้องโทรทรรศน์อวกาศ
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
YouTube: SPACEMAN
  • Home
  • ข่าวอวกาศ
  • ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! นักดาราศาสตร์เผยภาพหลุมดำคู่ โคจรรอบกันในใจกลางควอซาร์อันไกลโพ้น
  • ข่าวอวกาศ

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! นักดาราศาสตร์เผยภาพหลุมดำคู่ โคจรรอบกันในใจกลางควอซาร์อันไกลโพ้น

มนุษย์อวกาศ 22 ตุลาคม 2025
OJ287

นักดาราศาสตร์ประสบความสำเร็จในการถ่ายภาพหลุมดำมวลยิ่งยวด 2 ดวงที่กำลังโคจรรอบซึ่งกันและกันได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยหลุมดำคู่นี้ซ่อนตัวอยู่ในใจกลางของควอซาร์ OJ287 ที่อยู่ห่างจากโลกถึง 4,000 ล้านปีแสง การค้นพบครั้งประวัติศาสตร์นี้ไม่เพียงแต่ยืนยันสมมติฐานที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี แต่ยังเปิดหน้าต่างบานใหม่สู่การทำความเข้าใจพฤติกรรมของวัตถุที่ลึกลับที่สุดในเอกภพ

ไขปริศนาแห่งควอซาร์ OJ287

ควอซาร์ (Quasar) หรือชื่อเต็มคือ “วัตถุกึ่งดาว” (quasi-stellar object) คือใจกลางของกาแล็กซีที่สว่างไสวอย่างยิ่งยวด มีขุมพลังเป็น #หลุมดำมวลยิ่งยวด (Supermassive Black Hole) ที่ใจกลาง คอยดูดกลืนมวลสารมหาศาลที่อยู่รอบๆ ตัว เมื่อมวลสารเหล่านี้ถูกดูดเข้าไป มันจะก่อตัวเป็นจานพอกพูนมวล (Accretion Disk) ที่หมุนวนด้วยความเร็วสูงเกือบเท่าแสงและปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาในรูปของรังสีต่างๆ ทำให้ใจกลางกาแล็กซีสว่างเจิดจ้ากว่าดาวฤกษ์ทั้งหมดในกาแล็กซีรวมกันเสียอีก

สำหรับควอซาร์ OJ287 ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวปู (Cancer) ถูกค้นพบโดยบังเอิญตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แต่ความลับของมันเพิ่งจะเริ่มถูกตั้งเป็นทฤษฎีในปี ค.ศ. 1982 โดยนักดาราศาสตร์ฟินแลนด์ชื่อ ไอโม ซิลลันแป (Aimo Sillanpää) ผู้สังเกตเห็นว่าความสว่างของ OJ287 เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นคาบทุกๆ 12 ปี เขาจึงตั้งสมมติฐานว่า ณ ใจกลางของควอซาร์แห่งนี้ไม่ได้มีหลุมดำเพียงดวงเดียว แต่อาจมีหลุมดำ 2 ดวงกำลังโคจรรอบกันอยู่

ทีมนักดาราศาสตร์นานาชาติ นำโดย เมารี เจ. วาลโตเนน (Mauri J. Valtonen) จากมหาวิทยาลัยตุรกุ ประเทศฟินแลนด์ ได้ติดตามศึกษา OJ287 มาอย่างยาวนานเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีนี้ พวกเขาประเมินว่าระบบนี้ประกอบด้วย

  • หลุมดำหลัก มีมวลมหาศาลถึง 18,000 ล้านเท่าของมวลดวงอาทิตย์
  • หลุมดำรอง มีมวล 150 ล้านเท่าของมวลดวงอาทิตย์

แบบจำลองทำนายว่า ในวงโคจรที่ใช้เวลา 12 ปี หลุมดำรองจะพุ่งเข้าชนจานพอกพูนมวลของหลุมดำหลักถึง 2 ครั้ง ทำให้เกิดการปะทุของแสงสว่างจ้าออกมาอย่างรุนแรง

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการถ่ายภาพวัตถุทั้งสองที่อยู่ใกล้กันและไกลจากโลกมหาศาลเช่นนี้ได้ แม้แต่กล้องโทรทรรศน์อวกาศ TESS ของนาซาก็ไม่สามารถแยกภาพหลุมดำทั้งสองออกจากกันได้ แต่ในที่สุด ทีมวิจัยก็ทำสำเร็จโดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า VLBI (Very Long Baseline Interferometer) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อสัญญาณจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุหลายแห่งทั่วโลกให้ทำงานร่วมกันเสมือนเป็นกล้องโทรทรรศน์ขนาดมหึมาเพียงตัวเดียว โดยมีพระเอกสำคัญคือดาวเทียม #RadioAstron ที่มีวงโคจรไกลออกไปถึงครึ่งทางของดวงจันทร์ ทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียดสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ภาพของหลุมดำทั้งสองถูกถ่ายไว้เมื่อทศวรรษก่อนด้วยระบบกล้องโทรทรรศน์วิทยุที่รวมถึงดาวเทียม RadioAstron” วาลโตเนนอธิบาย “เมื่อเรานำภาพถ่ายทางวิทยุที่ได้มาเปรียบเทียบกับการคำนวณทางทฤษฎี เราก็พบว่าหลุมดำทั้งสองดวงอยู่ในตำแหน่งที่คาดการณ์ไว้ไม่มีผิดเพี้ยน”

ภาพที่ได้เผยให้เห็นเจ็ต (Jet) หรือลำอนุภาคพลังงานสูงที่พุ่งออกมาจากหลุมดำทั้งสองดวง ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของพวกมันโดยตรง เพราะตัวหลุมดำเองนั้นมืดสนิทจนมองไม่เห็น

นอกจากการยืนยันการมีอยู่ของหลุมดำคู่แล้ว ทีมวิจัยยังค้นพบสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือเจ็ตที่พุ่งออกมาจากหลุมดำรองมีลักษณะบิดเบี้ยวคล้าย “งูเลื้อย” (serpentine) ซึ่งเป็นผลมาจากการที่หลุมดำรองโคจรรอบหลุมดำหลักด้วยความเร็วสูง ทำให้ทิศทางของเจ็ตเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนที่ของมัน

การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากปริศนาที่ยาวนานถึง 4 ทศวรรษ และเป็นครั้งแรกที่เรามีภาพโดยตรงของหลุมดำสองดวงที่กำลังเต้นรำรอบกันและกัน ซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างหลุมดำ การเกิดคลื่นความโน้มถ่วง และวิวัฒนาการของดาราจักรได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อไปในอนาค


ข้อมูลอ้างอิง: University of Turku, The Astrophysical Journal

  • Two Black Holes Observed Circling Each Other for the First Time

About the Author

มนุษย์อวกาศ

Administrator

Visit Website View All Posts
จำนวนเข้าชม: 26

Post navigation

Previous: ถอดรหัส “เอกภพ” เราคือใคร? และจักรวาลกว้างใหญ่แค่ไหน?

เรื่องน่าอ่าน

WISPIT2b
  • ข่าวอวกาศ

ถ่ายติดชัด! ครั้งแรกของโลก นักดาราศาสตร์พบดาวเคราะห์กำเนิดขนาดมหึมา กำลังก่อตัวอยู่ในจานฝุ่นรอบดาวฤกษ์ดวงอื่น!

มนุษย์อวกาศ 22 ตุลาคม 2025
brown dwarf Wolf 1130C
  • ข่าวอวกาศ

กล้องเจมส์ เว็บบ์ ตรวจจับฟอสฟีนบนดาวแคระน้ำตาล พบโมเลกุลแห่งชีวิตที่ไม่คาดคิด!

มนุษย์อวกาศ 22 ตุลาคม 2025
Change6-Lunar
  • ข่าวอวกาศ

พลิกความเข้าใจระบบสุริยะ! จีนพบซากอุกกาบาตหายาก ในตัวอย่างจากด้านไกลของดวงจันทร์โดยยานฉางเอ๋อ-6

มนุษย์อวกาศ 21 ตุลาคม 2025

FB: SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SpacemanFB

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (7,058)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,900)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (3,067)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (3,021)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,934)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.