
เคยสงสัยไหมว่า เมื่อนานมาแล้ว มีดาวดวงใดที่เดินทางเข้ามาใกล้กับระบบสุริยะของเราบ้าง? ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่มีดวงดาวนับไม่ถ้วน การโคจรเฉียดใกล้กันของระบบดาวถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และนักดาราศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานที่น่าทึ่งของเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งนำไปสู่การทำความรู้จักกับ #ดาวของโชลซ์ ดาวแคระแดงและดาวแคระน้ำตาลคู่หนึ่งที่เคยเป็น “เพื่อนบ้าน” ที่ใกล้ชิดที่สุดของเราเมื่อ 70,000 ปีก่อน
การค้นพบดาวของโชลซ์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2013 โดยนักดาราศาสตร์ชื่อ ราล์ฟ-ดีเทอร์ โชลซ์ (Ralf-Dieter Scholz) จากสถาบันฟิสิกส์ดาราศาสตร์ไลบ์นิซ ในเมืองพ็อทสดัม ประเทศเยอรมนี เขาได้ศึกษาการเคลื่อนที่ของดาวฤกษ์ในพื้นที่ใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ และสังเกตเห็นว่าดาวดวงนี้มีการเคลื่อนที่เฉพาะ (proper motion) ที่ต่ำมากอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งหมายความว่ามันเคลื่อนที่ข้ามท้องฟ้าช้ามากเมื่อเทียบกับดาวดวงอื่น ๆ
การเคลื่อนที่ที่ช้าเช่นนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดาวดวงนี้อาจอยู่ใกล้เรามากในอดีต แต่กำลังเคลื่อนที่ออกห่างอย่างรวดเร็ว โชลซ์และทีมวิจัยจึงได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อคำนวณวงโคจรย้อนหลัง และผลลัพธ์ที่ได้ทำให้พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
ทีมวิจัยได้ทำการจำลองวงโคจรของดาวโชลซ์ถึง 10,000 ครั้ง โดยพิจารณาถึงตำแหน่ง ระยะทาง และความเร็วของดาว รวมไปถึงสนามโน้มถ่วงของกาแล็กซีทางช้างเผือก ผลการจำลองแสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ถึง 98% ที่ดาวดวงนี้จะเคลื่อนที่ผ่าน
ข้อมูลที่ได้จากการคำนวณแสดงให้เห็นว่าเมื่อประมาณ 70,000 ปีก่อน ดาวของโชลซ์ได้เคลื่อนที่เข้ามาในบริเวณ #เมฆออร์ต (Oort Cloud) ซึ่งเป็นบริเวณขอบนอกสุดของระบบสุริยะของเรา ห่างจากดวงอาทิตย์ออกไปประมาณ 0.8 ปีแสง (ประมาณ 7.6 ล้านล้านกิโลเมตร) นับเป็นระยะที่ใกล้ที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้สำหรับดาวฤกษ์ดวงอื่นที่เดินทางเข้ามาในระบบสุริยะของเราอย่างชัดเจน
ที่ระยะห่างขนาดนั้น แรงโน้มถ่วงจากดาวของโชลซ์อาจส่งผลรบกวนต่อการโคจรของวัตถุต่าง ๆ ในเมฆออร์ตได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้มีดาวหางจำนวนหนึ่งถูกเหวี่ยงเข้าสู่ระบบสุริยะชั้นในและมองเห็นได้จากโลกในยุคนั้น โดยการเข้าใกล้ของดาวของโชลซ์เกิดขึ้นในยุคที่มนุษย์นีแอนเดอร์ทาล (Neanderthals) ยังคงอาศัยอยู่บนโลก และในขณะที่มนุษย์ยุคปัจจุบัน (Homo sapiens) เริ่มอพยพออกจากทวีปแอฟริกา
ดาวของโชลซ์เป็นระบบดาวคู่ (binary system) ประกอบด้วยดาวฤกษ์สองดวง
1. ดาวแคระแดง (red dwarf)
ดาวดวงหลักมีมวลประมาณ 8% ของมวลดวงอาทิตย์ มีขนาดเล็กและจางกว่าดวงอาทิตย์มากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
2. ดาวแคระน้ำตาล (brown dwarf)
ดาวคู่เป็นดาวแคระน้ำตาล มีมวลประมาณ 6% ของมวลดวงอาทิตย์ ดาวแคระน้ำตาลจัดเป็น “ดาวฤกษ์ที่ล้มเหลว” เพราะมีมวลไม่มากพอที่จะจุดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันเพื่อหลอมรวมไฮโดรเจนเป็นฮีเลียมได้เหมือนดาวฤกษ์ทั่วไป
ปัจจุบัน ดาวของโชลซ์ได้เดินทางออกจากระบบสุริยะไปไกลแล้ว และอยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) ห่างจากเราออกไปประมาณ 20 ปีแสง แต่การค้นพบของมันได้เปิดเผยให้เราเห็นถึงปฏิสัมพันธ์ทางแรงโน้มถ่วงที่น่าทึ่งระหว่างระบบดาวในกาแล็กซี และยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของจักรวาลนั้นน่าตื่นเต้นเพียงใด
ข้อมูลอ้างอิง: University of Rochester