
บริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้เสร็จสิ้นการตรวจสอบสาเหตุของความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับยานสตาร์ชิป (Starship) ในเที่ยวบินที่ 9 ซึ่งมีกำหนดการขึ้นบินเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 รวมถึงอุบัติเหตุจากการทดสอบภาคพื้นดินอีกหนึ่งครั้ง โดยขณะนี้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (Federal Aviation Administration – FAA) ได้ยอมรับผลการตรวจสอบของบริษัท และให้การอนุมัติเพื่อเดินหน้าต่อไปยังเที่ยวบินที่ 10 ได้
ผลการตรวจสอบระบุว่า ความล้มเหลวในเที่ยวบินที่ 9 เกิดจากปัญหาโครงสร้างที่แตกต่างกันในแต่ละส่วน โดยบูสเตอร์ซูเปอร์เฮฟวี (Super Heavy) เกิดการระเบิดเนื่องจากท่อส่งเชื้อเพลิงภายในแตก ทำให้สเปซเอ็กซ์วางแผนที่จะลดมุมปะทะ (angle of attack) ในการบินครั้งต่อไป ส่วนยานสตาร์ชิป (Ship 35) ซึ่งเป็นส่วนบนของยาน เกิดการรั่วไหลของก๊าซมีเทน (methane) ทำให้ระบบควบคุมการทรงตัวล้มเหลว และตกลงในมหาสมุทรอินเดียในที่สุด นักวิจัยได้ระบุว่าปัญหาดังกล่าวเชื่อมโยงกับอุปกรณ์กระจายก๊าซ (gas diffuser) ที่ชำรุด
นอกจากนี้ เหตุระเบิดระหว่างการทดสอบภาคพื้นดินเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ซึ่งทำลายยานสตาร์ชิป (Ship 36) โดยสาเหตุมาจากถังความดันที่มีการหุ้มด้วยเส้นใยคอมโพสิต (composite overwrapped pressure vessel – COPV) ล้มเหลว ทำให้เชื้อเพลิงรั่วไหลและเกิดการระเบิดตามมา สเปซเอ็กซ์จึงได้ลดแรงดันการทำงานของถัง COPV เพิ่มฝาครอบป้องกัน และนำขั้นตอนการตรวจสอบใหม่มาใช้
หลังจากได้รับการอนุมัติจาก FAA ทางสเปซเอ็กซ์ ได้ประกาศเป้าหมายสำหรับเที่ยวบินทดสอบที่ 10 ของยานสตาร์ชิป โดยมีกำหนดการจะปล่อยยานเร็วที่สุดในวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคมนี้ จากฐานปล่อยยานในสตาร์เบส (Starbase) รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยเที่ยวบินที่ 10 จะยังคงมีลักษณะภารกิจคล้ายคลึงกับเที่ยวบินที่ 9 แต่มีการปรับเปลี่ยนจุดประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลที่สำคัญต่อการพัฒนายานให้กลับมาใช้งานซ้ำได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิง: Space. com
- SpaceX completes investigation into recent Starship failures, clears the way for Flight 10