
เมื่อดวงดาวบนฟ้าบอกเล่าเกี่ยวกับตัวเรา
เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวของอวกาศ สิ่งแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง คงจะเป็นภาพดวงดาวต่างๆ ที่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางความมืดมิดที่ว่างเปล่า ดวงอาทิตย์ส่องสว่างเจิดจ้า และปล่อยความร้อนจากพื้นผิวที่มีการลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา เทคโนโลยีล้ำสมัย ที่พยายามจะเดินทางออกนอกโลก ไปให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งเหล่านี้ ทำให้การเรียนรู้เกี่ยวกับอวกาศ เป็นการศึกษาบางสิ่งบางอย่าง ที่ไกลออกไปจากตัวเรา ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนธรรมดาทั่วไป และต่อให้ในเช้าวันพรุ่งนี้ กาแล็กซีที่ห่างไกลกาแล็กซีหนึ่ง จะหายไปจากจักรวาล มันก็ไม่ได้ทำให้วันนั้นของเรา มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า การศึกษาบางสิ่งบางอย่าง ที่ห่างไกลโพ้นออกไป หลายล้านล้านกิโลเมตร และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านั้น มันสามารถทำให้เราเข้าใจ ส่วนที่หยั่งลึกที่สุดในตัวของมนุษย์เราได้ โดยที่การศึกษาวิจัยต่างๆ บนโลกไม่สามารถทำให้เข้าใจในระดับนั้นได้เลย
เราทุกคนทราบว่า หน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต คือ เซลล์ชนิดต่างๆ ที่มีฟังก์ชันการทำงานแตกต่างกันไป เมื่อพิจารณาลึกลงไปอีกจะพบว่า แต่ละเซลล์จะประกอบด้วยโมเลกุล และอะตอมชนิดต่างๆ มากมาย โดยอะตอมหลักที่พบในสิ่งมีชีวิต โดยส่วนใหญ่จะเป็น ไฮโดรเจน คาร์บอน ไนโตรเจน และออกซิเจน
ร่างกายเด็กเล็กๆ คนหนึ่งเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ได้ เพราะได้รับอะตอมเหล่านี้จากน้ำที่ดื่ม อาหารที่รับประทาน และอากาศที่หายใจเข้าไป แต่เราทราบหรือไม่ว่าอะตอมดังกล่าว เกิดขึ้นมาได้อย่างไร บนโลกเราสามารถสร้างอะตอมไฮโดรเจน อะตอมออกซิเจน และอื่นๆ ได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ อะตอมต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกไม่เคยหายไป และไม่ได้เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่โลกถือกำเนิด หากไม่นับอะตอมต่างๆ อุกกาบาตที่ตกมาบนโลก ซึ่งถือเป็นปริมาณน้อยมาก
แล้วอะตอมต่างๆ หลายสิบชนิด ที่ประกอบขึ้นเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ นั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
การศึกษาเกี่ยวกับดาวฤกษ์อันไกลโพ้นนั้น สามารถให้คำตอบแก่เราได้ จากคำถามที่ดูไม่เกี่ยวข้องว่า ทำไมดวงอาทิตย์จึงส่องสว่าง ทำให้เกิดการพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และนำไปสู่การค้นพบที่ว่า ปฏิกิริยานิวเคลียร์บนดวงอาทิตย์ ได้หลอมรวมอะตอมของไฮโดรเจน ซึ่งเป็นอะตอมที่เล็กที่สุด ให้เกิดเป็นอะตอมที่ใหญ่ขึ้น คืออะตอมฮีเลียมได้ และหากดวงอาทิตย์ มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่านี้ จะสามารถหลอมรวมอะตอมขนาดเล็กให้เป็นอะตอมต่างๆ เช่น คาร์บอน หรือไนโตรเจน
ยิ่งไปกว่านั้น หากดวงอาทิตย์หรือดาวฤกษ์ มีขนาดใหญ่เกินไป เมื่อผ่านปฏิกิริยานิวเคลียร์นับหลายล้านปี ก็สามารถเกิดการระเบิดขึ้นได้ โดยการระเบิดนั้น อาจสร้างอะตอมที่หนักขึ้น เช่น แคลเซียมหรือเหล็ก
จะเห็นว่า อะตอมคาร์บอนที่ประกอบขึ้นมา เป็นผิวหนังและกล้ามเนื้อของเรานั้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นแกนกลางที่ร้อนจัด และหนาแน่นสูงของดวงดาว อะตอมของแคลเซียมในกระดูก อะตอมของเหล็กที่เป็นส่วนประกอบของเลือดที่ไหลเวียนภายร่างกายเรา ล้วนเกิดจากการระเบิดอย่างรุนแรงของดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ และเราคงไม่สามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้จากการศึกษาวิจัยเพียงบนโลก
การศึกษาในสิ่งที่ไกลออกไปนี้เอง ทำให้เราเข้าใจถึงสิ่งที่เล็กที่สุดที่มาประกอบเป็นตัวเรา เห็นความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ต้นไม้ สรรพสัตว์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งก้อนหินและมหาสมุทร ว่าแท้ที่จริงแล้วทั้งหมด ล้วนถูกสร้างมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน และทุกสิ่งเป็นสิ่งเดียวกัน นั่นคือเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ของดวงดาวที่ส่องสว่างอยู่บนฟ้า ในทุกค่ำคืนนั่นเอง
เรื่องโดย: นภสร จงจิตตานนท์
You may also like
เรื่องยอดนิยม
9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (3,779)
บัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,258)
จีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,795)
ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,748)
SpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,615)