
วงการดาราศาสตร์อาจต้องทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุที่ไกลที่สุดในเอกภพอีกครั้ง หลังข้อมูลล่าสุดจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) หรือ JWST ชี้ว่า เออาเรนเดล (Earendel) ซึ่งเคยถูกบันทึกว่าเป็นดาวฤกษ์เดี่ยวที่อยู่ไกลที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ อาจไม่ใช่ดาวฤกษ์เพียงดวงเดียว แต่อาจเป็นกระจุกดาว (star cluster) ขนาดกะทัดรัด
เออาเรนเดล ซึ่งตั้งตามชื่อตัวละครในผลงานของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (J.R.R. Tolkien) และมีความหมายในภาษาอังกฤษโบราณว่า “ดาวรุ่งอรุณ” (morning star) ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2022 โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) แสงของมันเดินทางมาถึงโลกเป็นระยะเวลานานถึง 12,900 ล้านปี ทำให้เรามองเห็นมันในสภาพที่เอกภพมีอายุเพียง 900 ล้านปีหลังเกิดบิกแบง (Big Bang) การค้นพบนี้เกิดขึ้นได้ด้วยปรากฏการณ์ เลนส์ความโน้มถ่วง (gravitational lensing) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ทำนายโดยทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของไอน์สไตน์ โดยมีกระจุกกาแล็กซี (galaxy cluster) ขนาดมหึมาที่อยู่ระหว่างโลกกับเออาเรนเดล ทำหน้าที่เหมือนแว่นขยายตามธรรมชาติ บิดโค้งปริภูมิ-เวลา (space-time) และขยายแสงของวัตถุที่อยู่ไกลออกไปให้สว่างจนมองเห็นได้
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาครั้งใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Astrophysical Journal นักดาราศาสตร์ได้ใช้เครื่องมือสเปกโทรกราฟอินฟราเรดใกล้ (Near-Infrared Spectrograph) หรือ NIRSpec ของกล้องเจมส์ เว็บบ์ เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติของเออาเรนเดลอย่างละเอียดอีกครั้ง ผลการวิเคราะห์พบว่าลักษณะทางสเปกตรัมของเออาเรนเดลมีความสอดคล้องกับคุณสมบัติของกระจุกดาวทรงกลม (globular cluster) ที่พบได้ในเอกภพยุคปัจจุบันมากกว่าที่จะเป็นดาวฤกษ์มวลมากเพียงดวงเดียว
ทีมวิจัยชี้ว่า การที่เออาเรนเดลจะปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนเช่นนี้ จำเป็นต้องอาศัยการเรียงตัวที่เกือบจะสมบูรณ์แบบกับเลนส์ความโน้มถ่วง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก สถานการณ์นี้ทำให้นักดาราศาสตร์พิจารณาความเป็นไปได้อื่น ๆ และแบบจำลองของกระจุกดาวก็ดูจะเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผล
แม้ว่าข้อมูลใหม่นี้จะยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน 100% ว่าเออาเรนเดลคือกระจุกดาว และยังคงต้องมีการสังเกตการณ์เพิ่มเติมเพื่อยืนยัน แต่การค้นพบครั้งนี้ก็ได้เปิดมุมมองใหม่ในการศึกษาวัตถุในยุคแรกเริ่มของเอกภพ และอาจนำไปสู่การปรับแก้ความเข้าใจเกี่ยวกับดาวฤกษ์และโครงสร้างแรกสุดที่ก่อกำเนิดขึ้นหลังบิกแบงต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง: Live Science
- Oops! Earendel, most distant star ever discovered, may not actually be a star, James Webb Telescope reveals