Skip to content
SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

ข่าวอวกาศ ความรู้ดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • กล้องโทรทรรศน์อวกาศ
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
YouTube: SPACEMAN
  • Home
  • ข่าวอวกาศ
  • นักดาราศาสตร์ค้นพบ ‘ไซเลน’ สารเคมีที่ก่อตัวเป็นเมฆบนดาวแคระน้ำตาลอายุเก่าแก่ 10,000 ล้านปี
  • ข่าวอวกาศ

นักดาราศาสตร์ค้นพบ ‘ไซเลน’ สารเคมีที่ก่อตัวเป็นเมฆบนดาวแคระน้ำตาลอายุเก่าแก่ 10,000 ล้านปี

มนุษย์อวกาศ 10 กันยายน 2025
Brown Dwarf

ทีมนักดาราศาสตร์ได้ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์เจมิไนใต้ (Gemini South Telescope) ของหอดูดาวนานาชาติเจมิไน (International Gemini Observatory) ในเครือหอดูดาว NOIRLab และกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ เพื่อตรวจจับการมีอยู่ของก๊าซมีเทน (CH4) น้ำ (H2O) และก๊าซไซเลน (SiH4) บนดาวแคระน้ำตาลเย็นจัดที่ชื่อ WISEA J153429.75-104303.3 หรือ W1534

ดาวแคระน้ำตาลดวงนี้ถูกขนานนามว่า “ดิแอกซิเดนต์” (The Accident) ตั้งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 50 ปีแสง ในกลุ่มดาวคันชั่ง (Libra) คาดว่ามันก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 10,000-12,000 ล้านปีก่อน ทำให้มันเป็นหนึ่งในดาวแคระน้ำตาลที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา

ดาวแคระน้ำตาลดวงนี้ถูกพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 2020 โดยนักวิทยาศาสตร์พลเมืองที่เข้าร่วมโครงการ Backyard Worlds: Planet 9 ซึ่งเป็นโครงการวิทยาศาสตร์พลเมืองที่เปิดให้คนทั่วไปมีส่วนร่วม โปรไฟล์แสงที่แปลกประหลาดของมันดึงดูดความสนใจของนักดาราศาสตร์ และนำไปสู่การใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลังที่สุดสองตัวทั้งแบบติดตั้งบนพื้นโลกและในอวกาศ เพื่อสำรวจบรรยากาศและทำความเข้าใจธรรมชาติและองค์ประกอบของมันให้ดียิ่งขึ้น

ผลการตรวจสอบนำโดย ดร.แอรอน ไมสเนอร์ (Aaron Meisner) นักดาราศาสตร์จาก NOIRLab โดยเริ่มจากการใช้กล้องโทรทรรศน์เจมิไนใต้เพื่อบันทึกภาพในย่านใกล้อินฟราเรดของดาว W1534 ดร.ไมสเนอร์ กล่าวว่าดาว W1534 มีความสลัวมาก และกล้องเจมิไนใต้เป็นกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินเพียงตัวเดียวที่สามารถตรวจจับมันได้ การตรวจจับนี้ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถประมาณเวลาเปิดรับแสงที่จำเป็นสำหรับการสำรวจชั้นบรรยากาศลึกของดาวดวงนี้ได้ และนำไปสู่การสังเกตการณ์เพิ่มเติมด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์

ในที่สุด ทีมวิจัยก็พบหลักฐานที่ชัดเจนของสารเคมี “ไซเลน” (silane) ซึ่งประกอบด้วยอะตอมของซิลิคอน (silicon) ที่จับตัวกับอะตอมไฮโดรเจน (hydrogen) สี่อะตอมในบรรยากาศของดาว W1534 นักวิทยาศาสตร์ด้านดาวเคราะห์คาดการณ์มานานแล้วว่าโมเลกุลนี้มีอยู่ในดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ และมีบทบาทสำคัญในการก่อตัวของเมฆภายในบรรยากาศของดาวเหล่านั้น

แม้จะมีการค้นคว้ามานานหลายทศวรรษ แต่ไซเลนก็ไม่เคยถูกตรวจพบในบรรยากาศของดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ในระบบสุริยะของเราอย่างดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ รวมถึงดาวแคระน้ำตาลและดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์อีกหลายพันดวงที่นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา การค้นพบครั้งนี้จึงถือเป็นการค้นพบไซเลนครั้งแรกในดาวแคระน้ำตาล ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ หรือวัตถุใดๆ ในระบบสุริยะของเรา

การที่โมเลกุลนี้ไม่เคยถูกตรวจพบที่อื่นนอกจากดาวแคระน้ำตาลที่มีลักษณะพิเศษเพียงดวงเดียวนี้ แสดงให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เก่าแก่เช่นนี้ ดร.แจ็กกี แฟเฮอร์ตี (Jackie Faherty) นักวิจัยจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน (American Museum of Natural History) กล่าวว่า “บางครั้งวัตถุที่มีลักษณะสุดขีดก็ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในวัตถุปกติได้”

การมีอยู่ของไซเลนในบรรยากาศของดาว W1534 ชี้ให้เห็นว่าในวัตถุที่เก่าแก่มาก ซิลิคอนสามารถจับกับไฮโดรเจนเพื่อก่อตัวเป็นโมเลกุลที่มีน้ำหนักเบาและสามารถลอยขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศชั้นบนของดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ได้ แต่ในวัตถุที่ก่อตัวขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เช่น ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ซิลิคอนจะจับกับออกซิเจนซึ่งมีอยู่มากกว่า ทำให้เกิดโมเลกุลที่มีน้ำหนักมากกว่าและจมลงสู่ชั้นลึกของบรรยากาศ ซึ่งกล้องโทรทรรศน์ของเราไม่สามารถตรวจจับได้

หลักฐานที่พบในบรรยากาศของดาว W1534 ยืนยันความเข้าใจของนักดาราศาสตร์เกี่ยวกับวิธีการก่อตัวของเมฆบนดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ และให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญว่าการก่อตัวของดาวในยุคแรกเริ่มสามารถส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบของบรรยากาศดาวเคราะห์ได้อย่างไร นอกจากนี้ยังเผยให้เห็นว่าโลกที่ก่อตัวขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีก่อน อาจมีลักษณะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโลกที่ก่อตัวในช่วงรุ่งอรุณของระบบสุริยะของเรา


ข้อมูลอ้างอิง: Science News

  • Astronomers Find Elusive Cloud-Forming Chemical on 10-Billion-Year-Old Brown Dwarf

About the Author

มนุษย์อวกาศ

Administrator

Visit Website View All Posts
จำนวนเข้าชม: 62

Post navigation

Previous: อะโพฟิส (Apophis) ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ที่เคยสร้างความกังวล เตรียมโคจรใกล้โลกในปี ค.ศ. 2029 นักวิทยาศาสตร์เตรียมพร้อมศึกษาปรากฏการณ์ครั้งสำคัญนี้
Next: NASA ประกาศค้นพบร่องรอยทางชีวภาพ ที่อาจบ่งชี้ถึงสิ่งมีชีวิตโบราณบนดาวอังคาร

เรื่องน่าอ่าน

ESA-3IAtlas
  • ข่าวอวกาศ

ยานสำรวจดาวอังคารของ ESA ส่อง “ดาวหางต่างระบบสุริยะ” ผู้มาเยือนจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น

มนุษย์อวกาศ 8 ตุลาคม 2025
ns-gw-art
  • ข่าวอวกาศ

สัญญาณจากจักรวาล ย้อนรอย 10 ปี LIGO คลื่นความโน้มถ่วงริ้วรอยแห่งกาลอวกาศ

มนุษย์อวกาศ 8 ตุลาคม 2025
Nobel Prize in Physics 2025
  • ข่าวอวกาศ

เปิดประตูสู่โลกควอนตัมในขนาดที่จับต้องได้! 3 นักฟิสิกส์ คว้ารางวัลโนเบล จากการทำให้อนุภาคทะลุกำแพงในวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่

มนุษย์อวกาศ 7 ตุลาคม 2025

FB: SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SpacemanFB

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (6,866)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,826)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (3,015)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,981)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,893)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.