• เกี่ยวกับเวิร์ดเพรส
    • WordPress.org
    • เอกสารประกอบ
    • Learn WordPress
    • สนับสนุน
    • ผลตอบรับ
  • Log In
Skip to content
SPACEMAN

SPACEMAN

ท่องโลกดาราศาสตร์และอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
เพจ SPACEMAN
  • Home
  • ระบบสุริยะ
  • ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ราชาแห่งดาวเคราะห์
  • ดาวพฤหัสบดี
  • ระบบสุริยะ

ดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ราชาแห่งดาวเคราะห์

มนุษย์อวกาศ 26 เมษายน 2025
hubble-jupiter

ดาวพฤหัสบดี เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 5 เมื่อนับจากดวงอาทิตย์ ถัดจากดาวอังคารและอยู่ก่อนหน้าดาวเสาร์ ในบรรดาดาวเคราะห์แก๊สยักษ์ทั้งสี่ของระบบสุริยะ (ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน) ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด ด้วยขนาดที่ใหญ่โตกว่าโลกของเราถึง 11 เท่าในเส้นผ่านศูนย์กลาง และมีมวลมากกว่าดาวเคราะห์อื่นๆ ในระบบสุริยะรวมกันถึง 2.5 เท่า ทำให้มันโดดเด่นเป็นสง่าในหมู่ดาวเคราะห์ทั้งหลาย ชื่อของดาวเคราะห์ดวงนี้มาจากเทพเจ้าโรมันจูปิเตอร์ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า สื่อถึงความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจของดาวเคราะห์ดวงนี้นั่นเอง

การปรากฏตัวบนท้องฟ้า: ดาวพฤหัสบดีเป็นวัตถุที่สว่างโดดเด่นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ทำให้เป็นที่รู้จักและถูกสังเกตโดยอารยธรรมโบราณมานานนับพันปี บันทึกทางประวัติศาสตร์จากหลากหลายวัฒนธรรมบ่งชี้ถึงการเฝ้าสังเกตและบันทึกการเคลื่อนที่ของดาวพฤหัสบดี ซึ่งมีความสม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม การค้นพบดาวพฤหัสบดีในบริบททางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จึงไม่สามารถระบุปีหรือผู้ค้นพบได้อย่างเจาะจง เนื่องจากมันสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ามาโดยตลอด

ลักษณะทางกายภาพอันน่าพิศวง: พายุยักษ์, แถบเมฆหลากสี และสนามแม่เหล็กอันทรงพลัง

  • จุดแดงใหญ่ (Great Red Spot): พายุหมุนนิรันดร: จุดแดงใหญ่คือหนึ่งในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดในระบบสุริยะของเรา พายุหมุนรูปวงรีขนาดมหึมานี้มีขนาดใหญ่กว่าโลกทั้งใบ และหมุนด้วยความเร็วลมที่สูงถึงหลายร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพายุดวงนี้ก่อตัวขึ้นจากความแตกต่างของอุณหภูมิและแรงดันในชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดี และยังคงดำเนินอยู่มานานกว่า 350 ปีนับตั้งแต่มีการบันทึกครั้งแรก กลไกที่ทำให้พายุนี้คงอยู่ได้เป็นเวลานานยังคงเป็นหัวข้อการวิจัยที่สำคัญ
  • แถบเมฆหลากสีสัน: ผลลัพธ์ของการหมุนและความแตกต่างของสารเคมี: บรรยากาศชั้นบนของดาวพฤหัสบดีไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่ปรากฏเป็นแถบเมฆสีขาว น้ำตาล แดง และเหลืองสลับกันไปในแนวขนานกับเส้นศูนย์สูตร แถบเหล่านี้เกิดจากการหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วของดาวเคราะห์ ซึ่งก่อให้เกิดกระแสลมกรด (zonal winds) ที่พัดในทิศทางตรงกันข้ามในแต่ละแถบ ความแตกต่างของสีเกิดจากองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันในแต่ละชั้นบรรยากาศ เช่น แอมโมเนีย น้ำ และสารประกอบของกำมะถัน
  • โครงสร้างภายใน: จากแก๊สหนาแน่นสู่ของเหลวโลหะไฮโดรเจน: ดาวพฤหัสบดีไม่มีพื้นผิวแข็งเหมือนดาวเคราะห์หิน เมื่อเราเดินทางลึกลงไปในชั้นบรรยากาศ ความหนาแน่น ความดัน และอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แก๊สไฮโดรเจนและฮีเลียม ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของดาวพฤหัสบดี จะค่อยๆ เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว และในที่สุด ที่ความดันสูงมากในชั้นลึก จะกลายเป็นของเหลวโลหะไฮโดรเจน ซึ่งอิเล็กตรอนสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ คาดการณ์ว่าใจกลางของดาวพฤหัสบดีอาจมีแกนหินหรือของแข็งขนาดเล็ก แต่ก็มีขนาดเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับขนาดโดยรวมของดาวเคราะห์
  • สนามแม่เหล็กอันทรงพลัง: โล่ป้องกันจากลมสุริยะ: การหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วของดาวพฤหัสบดี และการมีอยู่ของของเหลวโลหะไฮโดรเจนในชั้นภายใน ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งที่สุดในระบบสุริยะ สนามแม่เหล็กนี้มีขนาดใหญ่กว่าสนามแม่เหล็กโลกหลายเท่า และแผ่ขยายออกไปในอวกาศเป็นระยะทางหลายล้านกิโลเมตร สนามแม่เหล็กนี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันดาวพฤหัสบดีจากอนุภาคมีประจุพลังงานสูงที่มาจากลมสุริยะ และยังก่อให้เกิดปรากฏการณ์แสงออโรราที่ขั้วของดาวเคราะห์อีกด้วย

ดวงจันทร์บริวาร: โลกขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย

ดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าของระบบดวงจันทร์บริวารที่ซับซ้อนและน่าทึ่ง ปัจจุบันมีการค้นพบดวงจันทร์แล้วกว่า 90 ดวง ซึ่งมีขนาด รูปร่าง และลักษณะพื้นผิวที่แตกต่างกันอย่างมาก ดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุด 4 ดวง หรือที่เรียกว่าดวงจันทร์กาลิเลียน ถูกค้นพบโดยกาลิเลโอ กาลิเลอี ในปี ค.ศ. 1610 ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่เขาประดิษฐ์ขึ้น การค้นพบนี้เป็นการสนับสนุนทฤษฎีโคเปอร์นิคัสที่ว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ดวงจันทร์กาลิเลียนแต่ละดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

  • ไอโอ (Io): ดวงจันทร์ที่ใกล้ดาวพฤหัสบดีที่สุด และเป็นวัตถุที่มีความactive ทางภูเขาไฟมากที่สุดในระบบสุริยะ พื้นผิวของไอโอเต็มไปด้วยภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์และลาวาออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นผิวมีสีสันสดใส
  • ยูโรปา (Europa): ดวงจันทร์น้ำแข็งที่มีพื้นผิวเรียบเนียนและมีรอยแตกจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าภายใต้เปลือกน้ำแข็งนี้อาจมีมหาสมุทรของเหลว ซึ่งอาจเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต
  • แกนีมีด (Ganymede): ดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ มีขนาดใหญ่กว่าดาวพุธเสียอีก แกนีมีดมีพื้นผิวที่เป็นน้ำแข็งและหิน และมีสนามแม่เหล็กเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่พบในดวงจันทร์ดวงอื่น
  • คัลลิสโต (Callisto): ดวงจันทร์ที่มีพื้นผิวเก่าแก่และเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตมากที่สุดในบรรดาดวงจันทร์กาลิเลียน คัลลิสโตมีชั้นบรรยากาศที่เบาบางมาก และอาจมีมหาสมุทรใต้ดินเช่นเดียวกับยูโรปา

นอกจากดวงจันทร์กาลิเลียนแล้ว ดาวพฤหัสบดียังมีดวงจันทร์ขนาดเล็กอีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่มีรูปร่างไม่แน่นอนและอาจเป็นดาวเคราะห์น้อยที่ถูกแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีจับไว้

วงแหวนอันเลือนราง: อนุภาคฝุ่นจากดวงจันทร์ขนาดเล็ก

ดาวพฤหัสบดีมีระบบวงแหวนเช่นเดียวกับดาวเสาร์ แต่มีความจางและสังเกตได้ยากกว่ามาก วงแหวนของดาวพฤหัสบดีประกอบด้วยอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กที่เกิดจากการชนกันของอุกกาบาตกับดวงจันทร์บริวารชั้นใน เช่น เมทิส (Metis) และอะดราสเตีย (Adrastea) แรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีจะดึงดูดอนุภาคเหล่านี้ไว้ ทำให้เกิดเป็นวงแหวนที่บางและไม่สว่างนัก

การสำรวจดาวพฤหัสบดี: การเปิดเผยความลับของดาวเคราะห์ยักษ์

การสำรวจดาวพฤหัสบดีด้วยยานอวกาศได้ปฏิวัติความเข้าใจของเราเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงนี้ ยานไพโอเนียร์ 10 และ 11 (Pioneer 10 และ 11) เป็นยานลำแรกๆ ที่บินผ่านดาวพฤหัสบดีในช่วงทศวรรษ 1970 และได้ส่งภาพถ่ายและข้อมูลเบื้องต้นกลับมา ยานวอยเอเจอร์ 1 และ 2 (Voyager 1 และ 2) ได้เดินทางผ่านดาวพฤหัสบดีในเวลาต่อมา และให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบรรยากาศ ดวงจันทร์ และสนามแม่เหล็กของดาวเคราะห์

ยานกาลิเลโอ (Galileo) ซึ่งโคจรรอบดาวพฤหัสบดีระหว่างปี ค.ศ. 1995 ถึง ค.ศ. 2003 เป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง ยานลำนี้ได้ปล่อยยานสำรวจขนาดเล็กลงสู่ชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดีโดยตรง ทำให้เราได้รับข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมี อุณหภูมิ ความดัน และลมในชั้นบรรยากาศ นอกจากนี้ ยานกาลิเลโอยังได้ศึกษาดวงจันทร์บริวารอย่างใกล้ชิด และค้นพบหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการมีอยู่ของมหาสมุทรใต้ผิวน้ำแข็งของยูโรปา

ยานจูโน (Juno) ซึ่งเดินทางถึงดาวพฤหัสบดีในปี ค.ศ. 2016 ยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ในปัจจุบัน ยานลำนี้โคจรเข้าใกล้ดาวพฤหัสบดีในวงโคจรที่แคบ ทำให้สามารถศึกษาโครงสร้างภายใน สนามแม่เหล็ก และบรรยากาศของดาวเคราะห์ได้อย่างละเอียด ข้อมูลจากยานจูโนช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงต้นกำเนิด วิวัฒนาการ และพลวัตของดาวพฤหัสบดีได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ความสำคัญในการศึกษา: หน้าต่างสู่ความเข้าใจระบบสุริยะและดาวเคราะห์นอกระบบ

การศึกษาดาวพฤหัสบดีไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะของเราเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการทำความเข้าใจระบบสุริยะโดยรวม แรงโน้มถ่วงอันมหาศาลของดาวพฤหัสบดีมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุอื่นๆ ในระบบสุริยะ และอาจมีบทบาทในการจัดเรียงตัวของดาวเคราะห์ในช่วงเริ่มต้นของการก่อตัวของระบบสุริยะ นอกจากนี้ การศึกษาบรรยากาศของดาวพฤหัสบดียังเป็นเหมือนห้องปฏิบัติการทางธรรมชาติขนาดใหญ่สำหรับการศึกษาพลศาสตร์ของไหล (fluid dynamics) และอุตุนิยมวิทยาในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างจากโลกอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งไปกว่านั้น การศึกษาดาวพฤหัสบดียังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจดาวเคราะห์แก๊สยักษ์นอกระบบสุริยะ (exoplanets) ซึ่งมีการค้นพบเป็นจำนวนมาก การเปรียบเทียบคุณสมบัติของดาวพฤหัสบดีกับดาวเคราะห์นอกระบบที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ช่วยให้เราเข้าใจถึงกระบวนการก่อตัวและวิวัฒนาการของดาวเคราะห์ประเภทนี้ในระบบดาวอื่นๆ

ดาวพฤหัสบดียังคงเป็นดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจและรอคอยการค้นพบใหม่ๆ ภารกิจในอนาคตอาจมุ่งเน้นไปที่การสำรวจดวงจันทร์บริวาร โดยเฉพาะยูโรปา ซึ่งอาจเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนอกโลก การศึกษาดาวพฤหัสบดีอย่างต่อเนื่องจะช่วยเปิดเผยความลับของระบบสุริยะของเราและจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่เราอาศัยอยู่


ข้อมูลอ้างอิง: NASA

จำนวนเข้าชม: 314

Continue Reading

Previous: ดาวอังคาร (Mars) ดาวเคราะห์สีแดงที่รอการมาเยือน
Next: กาลิเลโอ กาลิเลอี บิดาแห่งดาราศาสตร์สมัยใหม่

เรื่องน่าอ่าน

Sunspot
  • ข่าวอวกาศ
  • ดวงอาทิตย์
  • ระบบสุริยะ

นักวิทยาศาสตร์ไขปริศนาสุริยะ 400 ปี เผยความลับเสถียรภาพของจุดดับบนดวงอาทิตย์

มนุษย์อวกาศ 15 กรกฎาคม 2025
Venus-corona
  • ข่าวอวกาศ
  • ดาวศุกร์
  • ระบบสุริยะ

การปะทุของภูเขาไฟอาจเป็นสาเหตุสำคัญ เปลี่ยนดาวศุกร์สู่สภาวะเรือนกระจกสุดขั้ว

มนุษย์อวกาศ 12 กรกฎาคม 2025
Jupiter Io
  • ดาวพฤหัสบดี
  • ระบบสุริยะ

ย้อนรอยยานวอยเอเจอร์ 2 เผยภาพดาวพฤหัสบดีและดวงจันทร์ไอโอ

มนุษย์อวกาศ 11 กรกฎาคม 2025
Lunio-Gen4

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (4,821)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,416)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,858)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,826)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,710)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.