ข่าวอวกาศ

ญี่ปุ่นส่งยานเสบียงยุคใหม่! JAXA ปล่อยยาน HTV-X1 ทะยานสู่สถานีอวกาศนานาชาติด้วยจรวด H3 สำเร็จ

องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ประสบความสำเร็จในการส่งยานขนส่งสัมภาระยุคใหม่ “HTV-X1” ขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ด้วยจรวด H3 ซึ่งเป็นจรวดส่งกำลังหลักรุ่นใหม่ของประเทศ การปล่อยครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสบียงที่สำคัญ แต่ยังเป็นการตอกย้ำความสามารถทางเทคโนโลยีอวกาศของญี่ปุ่นและบทบาทในอนาคตของการสำรวจอวกาศอีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 26 ต.ค. 68 เวลา 07.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ ศูนย์อวกาศทาเนงะชิมะ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น ได้ปล่อยจรวด H3-24L นำส่งยานอวกาศไร้คนขับ HTV-X1 มุ่งหน้าสู่สถานีอวกาศนานาชาติ ได้เป็นผลสำเร็จ หลังจากต้องเลื่อนกำหนดการมาหลายวันเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ภารกิจนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีการขนส่งอวกาศที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นของญี่ปุ่น

ยาน HTV-X1 ซึ่งพัฒนาและสร้างโดยบริษัท Mitsubishi Heavy Industries (MHI) เป็นยานขนส่งสัมภาระแบบใช้แล้วทิ้งรุ่นใหม่ล่าสุด ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนยานรุ่นพี่อย่าง HTV “โคอุโนโทริ” (Kounotori) ที่ปลดประจำการไปแล้ว โดยมีการปรับปรุงคุณสมบัติที่สำคัญหลายประการ

  • จุดเด่นที่สำคัญคือการลดระยะเวลาในการบรรทุกสัมภาระจากเดิมที่ใช้เวลาถึง 80 ชั่วโมงในยานรุ่นก่อน เหลือเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ภารกิจมีความรวดเร็วและคล่องตัวมากขึ้น
  •  แม้จะมีมวลปล่อยตัว 16,000 กิโลกรัม แต่ HTV-X1 สามารถบรรทุกสัมภาระและอุปกรณ์การทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้มากถึง 5,820 กิโลกรัม โดยใช้ชั้นวางสัมภาระมาตรฐานสากล (International Standard Payload Racks) เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
  • แผงโซลาร์เซลล์ 2 ชุดของยานสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 1 กิโลวัตต์ ซึ่งมากกว่ายาน HTV รุ่นเดิมที่ผลิตได้เพียง 200 วัตต์ถึง 5 เท่า ทำให้สามารถสนับสนุนการทดลองที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
  • ด้วยระบบไฟฟ้าและตู้แช่เย็นที่ติดตั้งบนยาน ทำให้สามารถขนส่งอาหารสดไปยังลูกเรือภารกิจเอ็กซ์เพดิชัน 74 (Expedition 74) และภารกิจอื่นๆ ในอนาคตได้

จรวด H3 ถือเป็นจรวดขนส่งขนาดกลางที่ JAXA และ MHI ร่วมกันพัฒนาขึ้นเพื่อมาแทนที่จรวด H-IIA และ H-IIB ที่เคยรับใช้ชาติมาอย่างยาวนาน จรวดท่อนแรกใช้เครื่องยนต์ LE-9 จำนวน 2 หรือ 3 ตัว ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลว (LH2) และออกซิเจนเหลว (LOX) นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งจรวดเชื้อเพลิงแข็งเสริมแรงขับ (Solid Rocket Boosters) ได้ 2 หรือ 4 แท่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบรรทุก

แม้การปล่อยจรวด H3 ครั้งแรกในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 จะประสบความล้มเหลว แต่หลังจากนั้น JAXA และ MHI ก็สามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาด้วยการปล่อยที่ประสบความสำเร็จถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของจรวดรุ่นใหม่นี้

เมื่อยาน HTV-X1 เดินทางถึงสถานีอวกาศนานาชาติ นักบินอวกาศชาวญี่ปุ่น คิมิยะ ยูอิ (Kimiya Yui) สมาชิกของภารกิจเอ็กซ์เพดิชัน 74 จะเป็นผู้ใช้แขนกล Canadarm2 ของสถานีในการควบคุมและเชื่อมต่อยานเข้ากับโมดูลฮาร์โมนี (Harmony module) โดยยานจะเทียบท่าอยู่เป็นเวลาประมาณ 6 เดือนเพื่อขนถ่ายสัมภาระและทำหน้าที่เป็นห้องทดลองเสริม ก่อนจะแยกตัวออกมาเพื่อปฏิบัติภารกิจเพิ่มเติมในอวกาศต่อไป

สถานีอวกาศนานาชาติ มีกำหนดจะปลดประจำการและกลับสู่โลกในปี พ.ศ. 2572 ทาง JAXA จึงได้เตรียมความพร้อมสำหรับภารกิจที่ไกลออกไปในวงโคจรระดับต่ำของโลก ยาน HTV-X ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการขนส่งสัมภาระไปยังเกตเวย์ (Gateway) ซึ่งเป็นสถานีอวกาศที่วางแผนจะสร้างขึ้นเพื่อโคจรรอบดวงจันทร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาร์ทิมิส (Artemis)

นอกจากนี้ JAXA ยังได้ร่วมมือกับองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ในการพัฒนาโมดูลที่อยู่อาศัยนานาชาติ (I-Hab) สำหรับสถานีเกตเวย์ ซึ่งมีกำหนดส่งขึ้นสู่อวกาศในภารกิจอาร์ทิมิส 4 (Artemis IV) ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2571 นี้ การปล่อยยาน HTV-X1 ในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การส่งเสบียง แต่เป็นอีกหนึ่งย่างก้าวที่มั่นคงของญี่ปุ่นบนเส้นทางสู่การสำรวจดวงจันทร์และอวกาศห้วงลึกในอนาคต


ข้อมูลอ้างอิง: NASA Space Flight

  • JAXA’s HTV-X1 launched to ISS aboard H3 Rocket