• เกี่ยวกับเวิร์ดเพรส
    • WordPress.org
    • เอกสารประกอบ
    • Learn WordPress
    • สนับสนุน
    • ผลตอบรับ
  • Log In
Skip to content
SPACEMAN

SPACEMAN

ท่องโลกดาราศาสตร์และอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
เพจ SPACEMAN
  • Home
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
  • หอดูดาวเวรา ซี. รูบิน ดวงตาคู่ใหม่แห่งจักรวาลที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า
  • กล้องโทรทรรศน์/หอดูดาว
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

หอดูดาวเวรา ซี. รูบิน ดวงตาคู่ใหม่แห่งจักรวาลที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า

มนุษย์อวกาศ 30 มิถุนายน 2025
Vera C. Rubin Observatory

ในโลกแห่งดาราศาสตร์และอวกาศที่เต็มไปด้วยความลึกลับ หอดูดาวเวรา ซี. รูบิน (Vera C. Rubin Observatory) ถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ที่พร้อมจะพลิกโฉมการทำความเข้าใจจักรวาลของเรา หอดูดาวแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาเซร์โรปาชอน (Cerro Pachón) ในประเทศชิลี กำลังจะกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ไขปริศนาเกี่ยวกับเอกภพ

กำเนิดของหอดูดาวแห่งยุค

หอดูดาวเวรา ซี. รูบิน ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (U.S. National Science Foundation: NSF) และสำนักงานวิทยาศาสตร์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of Energy: DOE) โดยมีเป้าหมายหลักคือการดำเนินโครงการสำรวจมรดกแห่งอวกาศและเวลา (Legacy Survey of Space and Time: LSST) ซึ่งจะสำรวจท้องฟ้าซีกโลกใต้ทั้งหมดเป็นระยะเวลา 10 ปี

สิ่งที่ทำให้หอดูดาวแห่งนี้โดดเด่นคือการผสานรวมระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยกระจกปฐมภูมิขนาด 8.4 เมตร กล้องดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบบประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อน และแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสร้างความสามารถใหม่ ๆ ให้กับวงการดาราศาสตร์อย่างไม่เคยมีมาก่อน

กล้องโทรทรรศน์และกล้องดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร

หัวใจสำคัญของหอดูดาวเวรา ซี. รูบิน คือกล้องโทรทรรศน์สำรวจซิมอนยี (Simonyi Survey Telescope) ที่ใช้การออกแบบกระจกสามบานพิเศษ ทำให้ได้มุมมองการรับภาพที่กว้างเป็นพิเศษ สามารถสำรวจท้องฟ้าทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียงสามคืน และเหนือสิ่งอื่นใดคือ “กล้องแอลเอสเอสทีแคม” (LSSTCam) ซึ่งเป็นกล้องดิจิทัลขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาเพื่อการสำรวจทางดาราศาสตร์ ด้วยน้ำหนักกว่า 3,000 กิโลกรัม และมีความละเอียดสูงถึง 3,200 ล้านพิกเซล กล้องนี้จะสร้างข้อมูลปริมาณมหาศาลกว่า 20 เทราไบต์ (terabytes) ต่อคืน

เป้าหมายทางวิทยาศาสตร์อันยิ่งใหญ่

โครงการสำรวจแอลเอสเอสที (LSST) จะสร้างชุดข้อมูลภาพและผลิตภัณฑ์ข้อมูลที่มีขนาดรวม 500 เพตะไบต์ (petabytes) ซึ่งจะช่วยตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับการก่อกำเนิดและวิวัฒนาการของจักรวาลและวัตถุต่าง ๆ ในอวกาศ โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้:

  1. สำรวจสสารมืดและพลังงานมืด (Dark Matter and Dark Energy): หอดูดาวจะศึกษาดาราจักรหลายพันล้านแห่ง เพื่อทำความเข้าใจพลังงานลึกลับที่ประกอบกันเป็น 95% ของจักรวาล การสำรวจนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจธรรมชาติของสสารมืดและพลังงานมืด รวมถึงอิทธิพลของพวกมันต่อโครงสร้างของจักรวาลในระดับใหญ่
  2. จัดทำบัญชีวัตถุในระบบสุริยะ (Cataloging the Solar System): หอดูดาวเวรา ซี. รูบิน จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นพบวัตถุต่าง ๆ ในระบบสุริยะของเรา คาดว่าจะสามารถตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ได้หลายล้านชิ้น รวมถึงวัตถุใกล้โลก (Near-Earth Objects: NEOs) และดาวเคราะห์น้อยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กเพียง 140 เมตร ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการป้องกันดาวเคราะห์
  3. สำรวจท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา (Exploring the Transient Optical Sky): จักรวาลไม่ได้หยุดนิ่ง มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น ซูเปอร์โนวา (supernovae) หรือดาวระเบิด รูบินจะสามารถตรวจจับปรากฏการณ์ชั่วคราวเหล่านี้ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถติดตามผลได้อย่างรวดเร็ว

ความก้าวหน้าล่าสุดและอนาคต

การก่อสร้างหอดูดาวเวรา ซี. รูบิน บนยอดเขาเซร์โรปาชอนในชิลี เริ่มขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 และได้มีการติดตั้งกล้องแอลเอสเอสทีแคมบนกล้องโทรทรรศน์เมื่อต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ และได้มีการเผยแพร่ภาพชุดแรกที่บันทึกได้จากหอดูดาวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันล้ำสมัยในการสำรวจความลึกของจักรวาล หอดูดาวแห่งนี้คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติการสำรวจอย่างเต็มรูปแบบในปลายปี พ.ศ. 2568

ข้อมูลจากหอดูดาวเวรา ซี. รูบิน จะเป็นขุมทรัพย์สำหรับนักวิจัยทั่วโลก ช่วยให้เกิดการค้นพบและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับจักรวาลของเรา


แหล่งที่มา:

  • Rubin Observatory
  • NSF. (2025, June 23). NSF-DOE Vera C. Rubin Observatory
  • สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
จำนวนเข้าชม: 18

Continue Reading

Previous: “แม่น้ำโขง” เมื่อผืนดินแห่งชีวิตกำลังเผชิญหน้ากับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
Next: อีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์ที่โลกไม่เคยเห็น

เรื่องน่าอ่าน

The young stars of Taurus
  • ดาราศาสตร์
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

แหล่งเพาะดาวฤกษ์วัยเยาว์ในกลุ่มดาววัว

มนุษย์อวกาศ 30 มิถุนายน 2025
Moon Farside
  • ดาราศาสตร์
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

อีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์ที่โลกไม่เคยเห็น

มนุษย์อวกาศ 30 มิถุนายน 2025
Hubble_M8_ACS_1_flat_FINAL
  • ดาราศาสตร์
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

เนบิวลาลากูน แหล่งกำเนิดดาวฤกษ์อันกว้างใหญ่

มนุษย์อวกาศ 30 มิถุนายน 2025

Tags

Black HoleJAXAMarsNASASpaceXกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์กาแล็กซีข้าวอวกาศจักรวาลดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ดาราศาสตร์ดาวพฤหัสบดีดาวอังคารดาวเคราะห์น้อยนักบินอวกาศนาซาระบบสุริยะสถานีอวกาศนานาชาติหลุมดำ

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (4,456)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,367)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,834)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,799)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,662)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.