
ข้อมูลล่าสุดจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (James Webb Space Telescope – JWST) กำลังสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่วงการดาราศาสตร์และจักรวาลวิทยา ด้วยความแม่นยำที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อมูลเหล่านี้ได้เผยให้เห็นความไม่สอดคล้องบางประการในแบบจำลองมาตรฐานของจักรวาล ซึ่งได้จุดประกายให้นักฟิสิกส์ทฤษฎีบางกลุ่มหยิบยกแนวคิดที่เคยถูกมองว่าหลุดโลกขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง นั่นคือ จักรวาลของเราอาจเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ภายในหลุมดำขนาดยักษ์”
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างองค์การนาซา (NASA) องค์การอวกาศยุโรป (ESA) และองค์การอวกาศแคนาดา (CSA) ถูกส่งขึ้นไปเพื่อสำรวจจักรวาลในยุคแรกเริ่ม แต่ข้อมูลที่ได้กลับมานั้นมีความละเอียดสูงจนทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถวัดอัตราการขยายตัวของเอกภพ หรือที่เรียกว่า ค่าคงที่ฮับเบิล (Hubble Constant) ได้อย่างแม่นยำอย่างยิ่ง
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ค่าที่วัดได้จากจักรวาลในปัจจุบันโดยกล้องเจมส์ เว็บบ์ และกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ขัดแย้งกับค่าที่คำนวณได้จากการศึกษา รังสีไมโครเวฟพื้นหลังของเอกภพ (Cosmic Microwave Background – CMB) ซึ่งเป็นแสงที่หลงเหลือจากยุคบิกแบง (Big Bang) ความขัดแย้งนี้ถูกเรียกว่า ความตึงเครียดฮับเบิล (Hubble Tension) และมันคือหนึ่งในปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวาลวิทยาในปัจจุบัน
เพื่อที่จะอธิบายความขัดแย้งดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์ได้เสนอแนวคิดและแบบจำลองทางเลือกมากมาย หนึ่งในแนวคิดที่น่าสนใจและถูกนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่คือ ทฤษฎีจักรวาลในหลุมดำ (Black Hole Cosmology)
แนวคิดนี้เสนอว่า บิกแบงอาจไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของทุกสิ่ง แต่อาจเป็นผลมาจากการยุบตัวของดาวฤกษ์มวลมหาศาลใน “จักรวาลแม่” (Parent Universe) ที่มีมิติสูงกว่าเรา เมื่อดาวฤกษ์นั้นยุบตัว มันได้ก่อกำเนิดเป็นหลุมดำ และจักรวาลที่เราอาศัยอยู่นี้ก็คือพื้นที่ภายในขอบฟ้าเหตุการณ์ (Event Horizon) ของหลุมดำนั้นนั่นเอง
ตามทฤษฎีนี้ การขยายตัวของจักรวาลที่เราสังเกตเห็น อาจไม่ใช่การขยายตัวออกไปในความว่างเปล่า แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างกาล-อวกาศ (Spacetime) ภายในหลุมดำ ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทำไมอัตราการขยายตัวจึงดูไม่สอดคล้องกันเมื่อวัดจากคนละช่วงเวลาของจักรวาล
ดร. เดเมียน การ์เซีย (Dr. Damien Garcia) นักฟิสิกส์ทฤษฎีจากสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง (Institute for Advanced Study) ให้ความเห็นว่า “นี่เป็นแนวคิดเชิงทฤษฎีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แม้จะยังห่างไกลจากการพิสูจน์ แต่ข้อมูลจากกล้องเจมส์ เว็บบ์ กำลังบังคับให้เราต้องเปิดใจรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ท้าทายความเข้าใจเดิมๆ เกี่ยวกับต้นกำเนิดและชะตากรรมของจักรวาล”
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยังคงยึดมั่นในแบบจำลองแลมบ์ดา-ซีดีเอ็ม (Lambda CDM Model) ซึ่งเป็นแบบจำลองมาตรฐานที่อธิบายจักรวาลได้ดีที่สุดในปัจจุบัน โดยมีส่วนประกอบคือ พลังงานมืด (Dark Energy) และสสารมืด (Dark Matter) แม้จะมีปัญหาเรื่องความตึงเครียดฮับเบิล แต่แบบจำลองนี้ก็ยังคงผ่านการทดสอบและสอดคล้องกับผลการสังเกตการณ์อื่นๆ อีกมากมาย
ภารกิจของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ ยังคงดำเนินต่อไป และข้อมูลในอนาคตจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการไขปริศนานี้ ไม่ว่าคำตอบสุดท้ายจะเป็นการปรับปรุงแบบจำลองมาตรฐานเดิม หรือเป็นการยอมรับแนวคิดใหม่ที่พลิกโฉมความเข้าใจของเราไปโดยสิ้นเชิง การค้นพบครั้งนี้ก็ได้ย้ำเตือนว่า จักรวาลนั้นยังคงเต็มไปด้วยความลับที่รอคอยการเปิดเผยอยู่เสมอ
ข้อมูลอ้างอิง: IFL Science/NASA, Greg Bacon (STScI)
- Surprising JWST Observations Hint We Might Be Inside A Black Hole