
ในวาระครบรอบ 13 ปีของการปฏิบัติภารกิจบนดาวอังคารรถสำรวจคิวริออซิตี (Curiosity rover) ขององค์การนาซา ได้ส่งภาพการค้นพบที่น่าสนใจกลับมายังโลก เป็นภาพหินขนาดเล็กที่มีรูปร่างแตกกิ่งก้านสาขาคล้ายกับปะการังในทะเลของโลก การค้นพบนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าดาวเคราะห์สีแดงเคยมีสภาวะที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตในอดีต
ภาพหินดังกล่าวถ่ายเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยกล้องจุลทรรศน์ระยะไกล (Remote Micro Imager) ที่ติดตั้งอยู่บนรถสำรวจ หินก้อนนี้มีขนาดความกว้างประมาณ 2 นิ้ว (5 เซนติเมตร) และทีมวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อเล่นว่า “พาโปโซ (Paposo)” แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ซับซ้อน แต่หินก้อนนี้ไม่ได้เกิดจากสิ่งมีชีวิตแต่อย่างใด
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า หินที่มีลักษณะเฉพาะเช่นนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีก่อน ในยุคที่ดาวอังคารยังมีน้ำในสถานะของเหลวอยู่บนพื้นผิว น้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุได้แทรกซึมเข้าไปตามรอยแตกของหินดั้งเดิม เมื่อเวลาผ่านไปน้ำได้ระเหยไป เหลือเพียงแร่ธาตุที่แข็งตัวตกผลึกอยู่ภายในรอยแตกนั้น
หลังจากนั้นเป็นเวลาหลายล้านปี กระแสลมอันรุนแรงบนดาวอังคารได้ทำหน้าที่เสมือนช่างแกะสลัก ค่อยๆ กัดกร่อนหินโดยรอบซึ่งมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าออกไปอย่างช้าๆ จนเผยให้เห็นแร่ธาตุที่แข็งกว่าซึ่งคงรูปตามรอยแตกเดิม กลายเป็นโครงสร้างที่สวยงามอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน กระบวนการทางธรณีวิทยานี้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปบนโลกเช่นกัน และได้สร้างรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์มากมายบนดาวอังคาร
รถสำรวจคิวริออซิตีลงจอดในแอ่งเกล (Gale Crater) ซึ่งเป็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่กว้าง 154 กิโลเมตร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา รถสำรวจได้เดินทางไปแล้วเป็นระยะทางกว่า 35 กิโลเมตร เพื่อศึกษาชั้นหินและสภาพแวดล้อมโบราณบริเวณตีนเขาชาร์ป (Mount Sharp) ซึ่งเป็นภูเขาสูงใจกลางแอ่งอุกกาบาต
ปัจจุบัน คิวริออซิตีกำลังสำรวจในพื้นที่ที่อุดมไปด้วยโครงสร้างที่เรียกว่า “บ็อกซ์เวิร์ก (boxwork formations)” ซึ่งเป็นแนวสันของแร่ที่ตัดกันเป็นร่างแห และเชื่อว่าก่อตัวจากน้ำใต้ดินในอดีต การศึกษาโครงสร้างเหล่านี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่า ดาวอังคารเปลี่ยนแปลงจากดาวเคราะห์ที่เคยชุ่มชื้นมาสู่สภาพทะเลทรายอันหนาวเหน็บในปัจจุบันได้อย่างไร
เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของรถสำรวจที่ปฏิบัติภารกิจมาอย่างยาวนาน วิศวกรของนาซาได้พัฒนายกระดับซอฟต์แวร์ให้คิวริออซิตีสามารถทำงานหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน เช่น การส่งข้อมูลกลับโลกพร้อมกับการเคลื่อนที่หรือถ่ายภาพ ซึ่งช่วยให้ประหยัดพลังงานและสามารถปฏิบัติภารกิจทางวิทยาศาสตร์ได้ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลอ้างอิง: Earth. com
- Curiosity rover celebrates 13 years on Mars by finding a rock that looks just like coral