
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NASA ได้ออกคำสั่งจำกัดสิทธิ์พลเมืองจีนที่มีวีซ่าสหรัฐฯ อย่างถูกต้อง ไม่ให้เข้าถึงสถานที่ และเครือข่ายของหน่วยงาน ซึ่งเท่ากับเป็นการกีดกันไม่ให้พวกเขาเข้าร่วมทำงานในหนึ่งในศูนย์วิจัยอวกาศของสหรัฐฯ
คำสั่งดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เมื่อนักวิจัยชาวจีนหลายรายซึ่งเคยทำงานในฐานะนักศึกษาหรือผู้รับจ้างในโครงการวิจัยต่างๆ ของ NASA พบว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงระบบและสถานที่ทำงานได้โดยทันที โฆษกของ NASA ได้ยืนยันคำสั่งนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการดำเนินการ “เพื่อรับรองความมั่นคงปลอดภัยของงานของเรา”
การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดใน “สงครามแข่งอวกาศครั้งใหม่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิชิตดวงจันทร์
ความขัดแย้งด้านอวกาศระหว่างสองมหาอำนาจไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไปในปี 2011 สหรัฐฯ ได้ออกกฎหมายที่เรียกว่า “Wolf Amendment” ซึ่งสั่งห้าม NASA ไม่ให้ร่วมมือกับจีนในโครงการทวิภาคี ทำให้ที่ผ่านมานักบินอวกาศจีนถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมในโครงการสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม คำสั่งล่าสุดของ NASA ได้ขยายขอบเขตการจำกัดสิทธิ์ให้กว้างขึ้น ครอบคลุมถึงนักวิจัยและผู้รับจ้างชาวจีนทุกคน แม้ว่าจะถือวีซ่าสหรัฐฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ที่เคยมีอยู่อย่างจำกัด
นักการเมืองสหรัฐฯ หลายคนแสดงความกังวลว่า การก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของโครงการอวกาศของจีน ทั้งการสร้างสถานีอวกาศของตนเอง และเป้าหมายที่จะส่งนักบินอวกาศไปดวงจันทร์ภายในปี 2030 อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และการเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ
การแข่งขันในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงการปักธงชาติบนดวงจันทร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการควบคุมทรัพยากรล้ำค่าที่อาจซ่อนอยู่ในดินแดนที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อนบนดวงจันทร์ เช่น แร่ธาตุหายากอย่างเหล็กและไทเทเนียม รวมถึง “ฮีเลียม-3” (Helium-3) ซึ่งเป็นไอโซโทปที่เชื่อว่าสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันในอนาคตได้
ในขณะที่จีนมองว่าการสำรวจอวกาศเป็น “ภารกิจร่วมกันของมนุษยชาติ” ตามที่ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีขององค์การอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมแห่งชาติจีนกล่าวไว้ สหรัฐฯ กลับมองว่าการแข่งขันครั้งนี้คือการปกป้องผลประโยชน์และความมั่นคงของตนเอง
การตัดสินใจของ NASA ในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การออกนโยบายภายใน แต่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างสองมหาอำนาจกำลังลดลง และสนามประลองแห่งใหม่ในศตวรรษที่ 21 กำลังจะย้ายจากโลกสู่ห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่
ข้อมูลอ้างอิง: BBC News
- NASA bans Chinese nationals from working on its space programmes