Skip to content
SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

ข่าวอวกาศ ความรู้ดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • กล้องโทรทรรศน์อวกาศ
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
YouTube: SPACEMAN
  • Home
  • ข่าวอวกาศ
  • เหนือความคาดหมาย! นักวิทยาศาสตร์พบสัญญาณจาก “แขนกาแล็กซี” อาจถูกเก็บซ่อนไว้ในผลึกบนโลก
  • ข่าวอวกาศ

เหนือความคาดหมาย! นักวิทยาศาสตร์พบสัญญาณจาก “แขนกาแล็กซี” อาจถูกเก็บซ่อนไว้ในผลึกบนโลก

มนุษย์อวกาศ 23 กันยายน 2025
milky_way_spirals2

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลักฐานที่ชวนให้คิดว่าการเดินทางของระบบสุริยะผ่านแขนของกาแล็กซีทางช้างเผือก อาจส่งผลกระทบต่อธรณีวิทยาของโลกเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน โดยหลักฐานชิ้นสำคัญนี้ถูกบันทึกไว้ใน “ผลึกเซอร์คอน” (Zircon) โบราณ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนแคปซูลเวลาทางธรณีวิทยาที่ซ่อนร่องรอยการเปลี่ยนแปลงในอดีตของโลกเอาไว้

ตามปกติแล้ว เวลาเราพูดถึงสิ่งที่กำหนดรูปร่างของโลก เรามักนึกถึงภูเขาไฟ แผ่นดินไหว และการเคลื่อนตัวของทวีปที่ใช้เวลาหลายล้านปี นอกจากนี้การพุ่งชนของอุกกาบาตก็มีบทบาทสำคัญ ดังที่เราเห็นได้จากพื้นผิวที่เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตของดวงจันทร์ แต่งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review Research ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น นั่นคือเรื่องราวทางธรณีวิทยาของโลกอาจถูกเขียนขึ้นจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น โดยเฉพาะจากแขนกังหันของกาแล็กซีทางช้างเผือก

การศึกษาครั้งนี้ได้เปรียบเทียบแผนที่ก๊าซไฮโดรเจนในกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งบ่งบอกถึงตำแหน่งของแขนกาแล็กซี กับข้อมูลทางเคมีที่พบในผลึกเซอร์คอนโบราณบนโลก ผลลัพธ์ที่ได้คือความเชื่อมโยงที่น่าทึ่งระหว่างช่วงเวลาที่ระบบสุริยะของเราเดินทางผ่านแขนกาแล็กซี กับช่วงเวลาที่เปลือกโลกดูเหมือนจะเกิดความ “ปั่นป่วน” มากกว่าปกติ

แขนกาแล็กซีคือ “คลื่นความหนาแน่น”

เพื่อทำความเข้าใจการค้นพบนี้ เราต้องมองแขนกังหันของกาแล็กซีในมุมใหม่ แขนเหล่านี้ไม่ใช่โครงสร้างที่แข็งทื่อ แต่เป็นเพียง “คลื่นความหนาแน่น” (density waves) ดาวฤกษ์ ก๊าซ และฝุ่นที่อยู่ในแขนเหล่านี้จะเคลื่อนที่ช้ากว่าดาวฤกษ์ดวงอื่น ๆ ที่อยู่นอกแขน ระบบสุริยะของเราเคลื่อนที่รอบศูนย์กลางกาแล็กซีเร็วกว่าแขนเหล่านี้ ทำให้เราโคจรผ่านแขนกาแล็กซีเป็นระยะ ๆ ทุก ๆ ประมาณ 180-200 ล้านปี การเดินทางผ่านแขนกาแล็กซีนี้เองที่อาจเพิ่มโอกาสที่ดาวหางและดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งเข้ามาสู่โลก

นักดาราศาสตร์ใช้ก๊าซไฮโดรเจนที่เป็นกลาง (neutral hydrogen) เป็นตัวบ่งชี้ตำแหน่งของแขนกาแล็กซี เนื่องจากก๊าซชนิดนี้จะปล่อยคลื่นวิทยุความยาวคลื่น 21 เซนติเมตรออกมา คลื่นนี้สามารถทะลุผ่านฝุ่นและก๊าซที่บดบังส่วนใหญ่ของกาแล็กซี ทำให้เราสามารถมองเห็นโครงสร้างของแขนกาแล็กซีได้แม้จะใช้กล้องโทรทรรศน์แสงที่มองเห็นไม่ได้

ผลึกเซอร์คอน แคปซูลเวลาขนาดจิ๋ว

แต่แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าโลกได้รับผลกระทบจากการเดินทางครั้งนี้จริง ๆ ? คำตอบอยู่ใน “ผลึกเซอร์คอน” ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ทนทานและพบได้ทั่วไปในเปลือกโลก สามารถมีอายุได้ยาวนานถึงหลายพันล้านปี ผลึกเซอร์คอนก่อตัวขึ้นในแมกมา และทำหน้าที่เหมือนแคปซูลเวลาขนาดจิ๋วที่นอกจากจะระบุอายุได้แล้ว ยังเก็บร่องรอยทางเคมีเกี่ยวกับสภาพของโลกในขณะที่มันก่อตัวไว้ด้วย

ภายในผลึกเหล่านี้มีอะตอมของออกซิเจนในรูปไอโซโทป (isotopes) ที่แตกต่างกัน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนสารบ่งชี้ว่าแมกมาที่ก่อตัวผลึกนั้นมาจากส่วนลึกของโลก หรือมีการสัมผัสกับน้ำบนพื้นผิว เมื่อระบบสุริยะเดินทางผ่านแขนกาแล็กซีซึ่งมีก๊าซไฮโดรเจนหนาแน่นกว่า การศึกษานี้พบว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีความผันผวนผิดปกติของไอโซโทปออกซิเจนในผลึกเซอร์คอน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีบางอย่างรบกวนการก่อตัวของเปลือกโลกในเวลานั้น

สัญญาณจากอวกาศบนเปลือกโลก

หนึ่งในแนวคิดคือเมื่อระบบสุริยะเคลื่อนที่ผ่านแขนกาแล็กซี มันอาจไปเขย่าเมฆออร์ต (Oort Cloud) ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บดาวหางขนาดใหญ่มหึมาที่อยู่ห่างไกลออกไปจากดาวพลูโต การเขย่านี้อาจทำให้ดาวหางบางส่วนหลุดออกมาและพุ่งเข้าสู่โลก การพุ่งชนแต่ละครั้งจะปลดปล่อยพลังงานมหาศาลมากพอที่จะหลอมหิน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาครั้งใหญ่ และทิ้งร่องรอยไว้ในเปลือกโลก

สิ่งที่สำคัญคือ ร่องรอยเหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้ในผลึกเซอร์คอนได้นานนับพันล้านปี ซึ่งยาวนานกว่าหลุมอุกกาบาตที่เราสามารถมองเห็นบนโลกได้มาก ทำให้ผลึกเซอร์คอนกลายเป็นเหมือนหอจดหมายเหตุทางธรณีวิทยาที่บันทึกผลกระทบจากอวกาศในอดีตเอาไว้

แม้ว่าความสัมพันธ์ไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์เชิงสาเหตุเสมอไป แต่หลักฐานที่ปรากฏขึ้นก็มีความน่าสนใจมากพอที่จะพิจารณาอย่างจริงจัง การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าการทำความเข้าใจโลกอย่างสมบูรณ์ เราอาจจำเป็นต้องมองให้ไกลออกไปถึงโครงสร้างอันยิ่งใหญ่ของกาแล็กซีทางช้างเผือก ที่อาจมีส่วนกำหนดวิวัฒนาการของโลกและอาจรวมถึงการเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตด้วย


ข้อมูลอ้างอิง: Science Alert

  • Signs of Our Galaxy’s Arms May Be Trapped in Some of Earth’s Crystals

About the Author

มนุษย์อวกาศ

Administrator

Visit Website View All Posts
จำนวนเข้าชม: 97

Post navigation

Previous: ดาวของโชลซ์ (Scholz’s star) เพื่อนบ้านผู้ลึกลับที่เคยมาเยือนระบบสุริยะ
Next: นาซาเผยโฉมนักบินอวกาศรุ่นใหม่ พร้อมลุยภารกิจบุกเบิกในยุคทองแห่งการสำรวจอวกาศ

เรื่องน่าอ่าน

ESA-3IAtlas
  • ข่าวอวกาศ

ยานสำรวจดาวอังคารของ ESA ส่อง “ดาวหางต่างระบบสุริยะ” ผู้มาเยือนจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น

มนุษย์อวกาศ 8 ตุลาคม 2025
ns-gw-art
  • ข่าวอวกาศ

สัญญาณจากจักรวาล ย้อนรอย 10 ปี LIGO คลื่นความโน้มถ่วงริ้วรอยแห่งกาลอวกาศ

มนุษย์อวกาศ 8 ตุลาคม 2025
Nobel Prize in Physics 2025
  • ข่าวอวกาศ

เปิดประตูสู่โลกควอนตัมในขนาดที่จับต้องได้! 3 นักฟิสิกส์ คว้ารางวัลโนเบล จากการทำให้อนุภาคทะลุกำแพงในวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่

มนุษย์อวกาศ 7 ตุลาคม 2025

FB: SPACEMAN มนุษย์อวกาศ

SpacemanFB

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (6,866)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,826)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (3,015)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,981)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,893)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.