
ภาพที่เห็นนี้คือภาพถ่ายของยานลงจอดดวงจันทร์แอนทาเรส (Lunar Module Antares) ของภารกิจอะพอลโล 14 (Apollo 14) ขณะจอดสงบนิ่งอยู่บนที่ราบสูงฟราเมาโร (Fra Mauro highlands) อันขรุขระของดวงจันทร์
สิ่งที่ทำให้ภาพนี้โดดเด่นสะดุดตาคือแสงสะท้อนทรงกลมอันเจิดจ้าจากดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบกับแผ่นฟอยล์สีทองของยานลงจอด นักบินอวกาศในภารกิจนี้ได้บรรยายถึงแสงนั้นว่า “เหมือนอัญมณี” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความงดงามที่แฝงอยู่ในความขรุขระของภูมิประเทศบนดวงจันทร์ได้อย่างน่าประทับใจ
ผู้ที่เอ่ยถึงแสงสะท้อนอันเจิดจ้านี้คือ อลัน เชปเพิร์ด (Alan Shepard) และเอ็ดการ์ มิทเชลล์ (Edgar Mitchell) สองนักบินอวกาศผู้ปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์ ซึ่งเหตุผลที่แสงสะท้อนดูคล้ายอัญมณีนั้นเกิดจากลักษณะของแผ่นฟอยล์ที่ห่อหุ้มยานลงจอด แผ่นฟอยล์นี้คือฉนวนกันความร้อนหลายชั้น (Multi-Layer Insulation หรือ MLI) ซึ่งประกอบด้วยฟิล์มโพลีเอไมด์เคลือบอะลูมิเนียมบางๆ หลายแผ่นซ้อนทับกัน เพื่อป้องกันยานจากอุณหภูมิที่สูงและต่ำสุดขีดในอวกาศ เมื่อแสงอาทิตย์ที่รุนแรงในอวกาศอันไร้ชั้นบรรยากาศมาตกกระทบ แสงจะไม่กระเจิงเหมือนบนโลก แต่จะสะท้อนออกจากพื้นผิวที่มันเงาและโค้งมนของยานในลักษณะที่พุ่งตรงและรวมแสง ทำให้เกิดเป็นจุดแสงที่สว่างและคมชัดราวกับแสงจากเพชรพลอย
ภารกิจอะพอลโล 14 ซึ่งออกเดินทางในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1971 มีเป้าหมายสำคัญคือการสำรวจที่ราบสูงฟราเมาโร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยถูกกำหนดให้เป็นจุดลงจอดของภารกิจอพอลโล 13 แต่ก็ต้องยกเลิกไป อลัน เชปเพิร์ด และเอ็ดการ์ มิทเชลล์ สองนักบินอวกาศผู้กล้าหาญ ได้ปฏิบัติภารกิจนอกยานถึงสองครั้ง (moonwalks) โดยมีเป้าหมายหลักคือการเก็บตัวอย่างหินและดินจากบริเวณใกล้เคียงปากปล่องภูเขาไฟโคน (Cone Crater) ซึ่งเราสามารถมองเห็นเนินเขาลาดต่ำของปล่องภูเขาไฟนี้ได้ทางด้านซ้ายของภาพ
ในช่วงเวลาแห่งการสำรวจนั้น ทั้งสองได้รวบรวมตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับมายังโลกได้เกือบ 43 กิโลกรัม และติดตั้งอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับดวงจันทร์ ภารกิจนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจประวัติและองค์ประกอบของดวงจันทร์มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงความสามารถทางวิศวกรรมที่แม่นยำและความกล้าหาญของมนุษย์อีกด้วย
ภาพถ่ายนี้เป็นมากกว่าแค่การบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ มันสะท้อนแก่นแท้ของโครงการอพอลโลที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นทางวิศวกรรม ความงดงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติในอวกาศ และที่สำคัญที่สุดคือจิตวิญญาณแห่งการสำรวจที่ไม่เคยจางหายไป ภาพนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติสู่ดวงดาวนั้นยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับการสำรวจครั้งใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิง: NASA
- Glare of the Sun on the Apollo 14 Lunar Module