
บริษัทสตาร์ตอัปด้านอวกาศ Inversion ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Arc ยานกลับสู่บรรยากาศ (reentry vehicle) รุ่นแรกของโลกที่ออกแบบมาเพื่อภารกิจขนส่งเสบียงสำคัญจากวงโคจรลงสู่พื้นโลกเกือบทุกจุดได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ยาน Arc ถูกวางตำแหน่งให้เป็นแพลตฟอร์มโลจิสติกส์อวกาศยุคใหม่ ที่สามารถบรรทุกสัมภาระที่มีความสำคัญต่อภารกิจ (mission-critical cargo) ได้สูงสุด ประมาณ 227 กิโลกรัม และมีความสามารถในการลงจอดโดยไม่ต้องใช้รันเวย์
Arc มีความสูงประมาณ 2.4 เมตร และกว้าง 1.2 เมตร มีขนาดใกล้เคียงกับโต๊ะขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการส่งมอบสิ่งของได้หลากหลาย ตั้งแต่ชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปจนถึงโดรน โดยผู้ร่วมก่อตั้ง Justin Fiaschetti ได้กล่าวว่า Arc เป็นตัวแทนของความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ในอวกาศ ที่จะทำให้การเข้าถึงพื้นโลกทำได้ง่ายขึ้น
Inversion มีแผนที่จะเก็บยาน Arc ไว้ในวงโคจรเป็นเวลานานสูงสุดถึง 5 ปี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเรียกใช้งานฉุกเฉิน เมื่อได้รับคำสั่ง ยานจะสามารถนำสัมภาระลงสู่จุดหมายที่ต้องการได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน
เทคโนโลยีการกลับสู่บรรยากาศ
- ตัวถังแบบร่อน (Lifting Body Design) Arc ไม่ได้ตกลงมาแบบตรง ๆ แต่ถูกออกแบบให้เป็นตัวถังแบบร่อน ทำให้สามารถบังคับทิศทางขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้
- พิสัยการร่อน (Cross-Range) กว้าง ยานมีพิสัยการร่อนไกลถึง 1,000 กิโลเมตร ในระหว่างการกลับเข้าสู่บรรยากาศ ทำให้สามารถเลี้ยวและควบคุมเส้นทางการลงจอดให้แม่นยำในพื้นที่กว้างได้
- การลงจอดแบบร่มชูชีพ แทนที่จะต้องลงจอดบนรันเวย์เหมือนเครื่องบิน ยาน Arc จะใช้ร่มชูชีพในการแตะพื้นอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนยังใช้เชื้อเพลิงที่ไม่เป็นพิษ ทำให้บุคลากรสามารถเข้าจัดการยานได้ทันทีหลังการลงจอดโดยไม่จำเป็นต้องสวมชุดป้องกัน
นอกจากภารกิจด้านโลจิสติกส์แล้ว Inversion ยังเสนอยาน Arc ให้เป็นแพลตฟอร์มทดสอบความเร็วเหนือเสียงสูง (Hypersonic Test Platform) สำหรับหน่วยงานทางทหารของสหรัฐฯ
เนื่องจากยานสามารถทำความเร็วได้สูงกว่า 20 มัค และสามารถคงสภาพในสภาวะสุดขั้ว รวมถึงทนทานต่อแรง g มหาศาลได้นานกว่า ทำให้ Arc เป็นวิธีที่คุ้มค่าและทำซ้ำได้ในการสนับสนุนงานวิจัยความเร็วเหนือเสียง ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่หน่วยงานด้านกลาโหมกำลังให้ความสำคัญและเพิ่มงบประมาณสนับสนุน
ความสามารถในการนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ (Fully Reusable) และการลงจอดที่แม่นยำเพื่อการกู้คืนอย่างรวดเร็ว ทำให้ Arc กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเร่งความเร็วและลดต้นทุนการทดสอบด้านเทคโนโลยีอวกาศขั้นสูง
Arc ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากยานสาธิตที่มีขนาดเล็กกว่าชื่อ Ray ซึ่งถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรในภารกิจ Transporter-12 ของ SpaceX เมื่อเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่า Ray จะไม่มีความสามารถในการนำกลับลงจอด แต่ก็ได้ทำการทดสอบระบบสำคัญต่าง ๆ เช่น ระบบขับเคลื่อน ระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน (avionics) และระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งความสำเร็จของ Ray ได้มอบความมั่นใจให้แก่ทีมงานในการเริ่มงานพัฒนายาน Arc ขนาดเต็ม
ปัจจุบัน Inversion ซึ่งมีพนักงานราว 60 คน ได้สร้างโครงสร้างหลักของยาน Arc ในขนาดจริงและดำเนินการทดสอบการตกจากที่สูง (drop tests) รวมถึงการสร้างแบบจำลองอากาศพลศาสตร์มาแล้วหลายสิบครั้ง บริษัทยังได้ร่วมมือกับองค์การนาซาในการพัฒนาระบบป้องกันความร้อนสำหรับการกลับเข้าสู่บรรยากาศในสภาวะสุดขั้ว โดยตั้งเป้าหมายที่จะส่งยาน Arc ออกปฏิบัติภารกิจแรกภายในปี 2569
ข้อมูลอ้างอิง: Interesting Engineering
- World’s first space delivery vehicle can bring supplies anywhere on Earth in an hour