ลูกไฟสีเขียวสว่างวาบได้พุ่งผ่านท้องฟ้ายามเช้ามืดในวันที่ 27 ต.ค. 68 ของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่พบเห็นและจุดกระแสการคาดเดาไปทั่วโลกออนไลน์ แม้จะไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ แต่สีที่ผิดปกติ ความเร็วที่แลดูช้า และการเคลื่อนที่อย่างเงียบงัน ได้ทิ้งไว้เพียงความฉงนงงงวยแก่ทุกคน
ไฟร์บอลสีเขียวยามเช้ามืดเหนือเมืองหลวง
ในช่วงความมืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ชาวกรุงมอสโกได้เป็นพยานในปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา ลูกไฟขนาดใหญ่สีเขียวมรกตที่ส่องแสงเจิดจ้า พร้อมประกายไฟเล็กน้อยลากผ่านเส้นขอบฟ้าเหนืออาคารสูงในเมือง วัตถุดังกล่าวเคลื่อนที่อย่างชัดเจนแต่ดูเหมือนจะช้ากว่าปกติ ก่อนจะหายลับไปในกลุ่มเมฆโดยไร้เสียงใด ๆ ทำให้ผู้เดินทางในยามเช้าจำนวนมากถึงกับหยุดนิ่งและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเหตุการณ์สั้น ๆ นี้ไว้
พยานผู้พบเห็นคนหนึ่งกล่าวว่าลูกไฟนี้ “สว่างมาก” และ “เคลื่อนที่ช้า” ซึ่งยิ่งเพิ่มความลึกลับให้กับการปรากฏตัวของมัน ภาพวิดีโอถูกแชร์อย่างรวดเร็วบนสื่อสังคมออนไลน์ และมีการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์อุกกาบาตเชลยาบินสค์ในปี พ.ศ. 2556 ที่เคยระเบิดเหนือประเทศรัสเซียด้วยแรงทำลายล้าง แม้ว่าครั้งนี้จะไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ แต่ความคล้ายคลึงกันในภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจก็ทำให้เกิดความกังวลในหมู่สาธารณชนอีกครั้ง
แสงสีเขียวบ่งบอกอะไร?
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าวัตถุดังกล่าวน่าจะเป็นดาวตก (meteor) หรือไฟร์บอล (fireball) ซึ่งเป็นศัพท์ทางดาราศาสตร์ที่ใช้เรียกดาวตกที่มีความสว่างมากเป็นพิเศษ และสีเขียวที่เห็นอาจบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของธาตุนิกเกิล (Nickel) หรือแมกนีเซียม (Magnesium) ซึ่งเป็นธาตุที่ทราบกันดีว่าสามารถผลิตสีดังกล่าวได้เมื่อถูกเผาไหม้และกลายเป็นไอ (vaporized) ขณะที่วัตถุพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก
ความเงียบที่สวนทางกับความสว่าง
สิ่งที่ทำให้หลายคนตกใจไม่ใช่แค่ความสว่างของลูกไฟ แต่เป็นการเคลื่อนที่ที่เงียบงันอย่างน่าประหลาด ไม่มีเสียงระเบิด ไม่มีเสียงโซนิกบูม (Sonic Boom) มีเพียงแค่แสงวาบแล้วหายไป วิดีโอที่บันทึกได้เผยให้เห็นวัตถุที่เรืองแสงสีเขียวเกือบเป็นสีนีออนขณะเคลื่อนผ่านขอบฟ้า
ผู้เชี่ยวชาญจากหอดูดาวในพื้นที่กำลังดำเนินการเพื่อระบุวิถีโคจรและที่มาของวัตถุนี้ แม้ว่าดาวตกจะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกทุกวัน แต่การแสดงผลที่สว่างและมีสีสันเช่นนี้ถือว่าเกิดขึ้นได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาพร้อมกับความเงียบที่โดดเด่นของเหตุการณ์ในครั้งนี้
เหตุการณ์นี้จึงเป็นเครื่องเตือนใจว่าโลกของเรามีการปฏิสัมพันธ์กับเศษซากจากอวกาศอยู่ตลอดเวลา และทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์ลูกไฟขึ้น นักวิทยาศาสตร์ก็จะมีโอกาสศึกษาองค์ประกอบของชั้นบรรยากาศและวัตถุที่เดินทางผ่านเข้ามาได้มากขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง: Daily Galaxy
- Unexplained Green Light Blazes Over Moscow—What Was It?