แอลีน มารี คอลลินส์ (Eileen Marie Collins) นักบินอวกาศหญิงคนแรกที่เป็นผู้บังคับการยานอวกาศ

แอลีน มารี คอลลินส์ (Eileen Marie Collins) เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) ที่เมืองเอลไมรา รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เธอเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศ โดยได้รับการยกย่องในฐานะนักบินอวกาศหญิงคนแรกของโลกที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการยานอวกาศ ซึ่งเป็นการทำลายกำแพงและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทั่วโลกในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) รวมถึงด้านการบินและอวกาศ

ชีวิตในวัยเยาว์ของคอลลินส์มีความสนใจในด้านการบินอย่างมาก เธอได้รับแรงบันดาลใจจากการชมโครงการอวกาศในช่วงแรกๆ และมีความใฝ่ฝันที่จะได้มีส่วนร่วมในการสำรวจจักรวาล เธอเป็นเด็กหญิงที่ใฝ่รู้และมีความมุ่งมั่นตั้งแต่วัยเยาว์

ด้านการศึกษา คอลลินส์มีความโดดเด่น เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาคณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ (Syracuse University) จากนั้นได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทถึงสองสาขา ได้แก่ ปริญญาโทสาขาการบริหารจัดการจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) และ ปริญญาโทสาขาการบริหารจัดการอวกาศจากมหาวิทยาลัยเว็บส์เตอร์ (Webster University) พื้นฐานการศึกษาที่แข็งแกร่งนี้เป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในอาชีพของเธอ

• พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในเส้นทางอาชีพของคอลลินส์ เมื่อเธอเข้าร่วมเป็นนักบินของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงรุ่นแรกๆ ที่ได้เป็นนักบินในกองทัพ และได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ เธอสั่งสมประสบการณ์การบินที่หลากหลาย รวมถึงการเป็นครูฝึกบินและการบินเครื่องบินลำเลียง C-141 Starlifter ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขนส่งบุคลากรและยุทโธปกรณ์
• ความสามารถและประสบการณ์ของคอลลินส์เป็นที่ประจักษ์ จนกระทั่ง พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) เธอได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการนักบินอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ซึ่งเป็นความฝันที่เป็นจริงสำหรับเธอ การฝึกฝนอย่างเข้มข้นในโครงการนี้เตรียมความพร้อมให้เธอสำหรับการปฏิบัติภารกิจที่ท้าทายในอวกาศ
• พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) คอลลินส์สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักบินอวกาศหญิงคนแรกที่ได้ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนกระสวยอวกาศ ในเที่ยวบิน STS-63 ของกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี (Discovery) ภารกิจนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย โดยมีการเข้าเทียบท่ากับสถานีอวกาศเมียร์ (Mir) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างประเทศในยุคหลังสงครามเย็น บทบาทของคอลลินส์ในฐานะนักบินได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมยานอวกาศที่มีความซับซ้อน
• อีกก้าวสำคัญในอาชีพของเธอคือ พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) เมื่อคอลลินส์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการยานอวกาศหญิงคนแรกของโลก ในภารกิจ STS-93 ของกระสวยอวกาศโคลัมเบีย (Columbia) ภายใต้การนำของเธอ ลูกเรือได้ปฏิบัติภารกิจหลักในการปล่อยกล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา (Chandra X-ray Observatory) ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาเอกซเรย์จากห้วงอวกาศ การเป็นผู้บังคับการยานอวกาศไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบินที่ยอดเยี่ยมของเธอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทักษะความเป็นผู้นำและการตัดสินใจที่เฉียบคมในสถานการณ์ที่กดดัน

คอลลินส์ยังได้เป็นผู้บังคับการในภารกิจ STS-114 ในปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) ซึ่งเป็นเที่ยวบิน “Return to Flight” ของกระสวยอวกาศ หลังจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมของกระสวยอวกาศโคลัมเบีย ภารกิจนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทดสอบและประเมินมาตรการความปลอดภัยใหม่ๆ สำหรับโครงการกระสวยอวกาศ

คอลลินส์เกษียณอายุราชการจากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) หลังจากสิ้นสุดอาชีพนักบินอวกาศที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง อย่างไรก็ตาม ความหลงใหลในด้านอวกาศของเธอยังคงอยู่ หลังจากนั้น คอลลินส์ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งคราวในฐานะนักวิเคราะห์เกี่ยวกับการปล่อยและลงจอดของกระสวยอวกาศให้กับสถานีโทรทัศน์ CNN ซึ่งเธอได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับผู้ชมทั่วโลก

ตลอดอาชีพของเธอ แอลีน มารี คอลลินส์ ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมาย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณูปการที่เธอมีต่อวงการการบินและอวกาศ เธอเป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง ให้กล้าที่จะไล่ตามความฝันและทำลายข้อจำกัดต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถของตนเอง เรื่องราวของเธอยังคงถูกเล่าขานและเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศที่สำคัญ