บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT โดย NT Satellite Solutions ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงาน Pitching Day รอบชิงชนะเลิศโครงการประกวดแผนธุรกิจอวกาศ “Space Quest 2025: NextGen Spacepreneurs” พร้อมประกาศผลรางวัลชนะเลิศ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ห้อง NT Auditorium สำนักงานใหญ่ NT โดยมี 10 ทีมสุดท้ายจากผู้สมัครทั้งหมด 55 ทีม ขึ้นนำเสนอแนวคิดธุรกิจในรูปแบบการ Pitching ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของโครงการที่เริ่มต้นด้วย Workshop เชิงลึก จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15-16 กันยายน 2568 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเสริมสร้างศักยภาพเยาวชนไทยในการพัฒนานวัตกรรมและต่อยอดธุรกิจในเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ (New Space Economy)
“เศรษฐกิจอวกาศ” โอกาสใหม่ของไทย

คุณอานุภาพ ลุจนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจดาวเทียม บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงานพร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศของประเทศ โดยชี้ให้เห็นว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีอวกาศได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ GPS ไปจนถึงการพยากรณ์อากาศ ซึ่ง OECD ได้คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจอวกาศจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ประเทศที่ตระหนักถึงความสำคัญและเตรียมแผนพัฒนาทั้งในแง่ของบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับเศรษฐกิจอวกาศก่อน ก็จะได้เปรียบอย่างมาก การที่ NT จัดโครงการ Space Quest 2025 ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีอวกาศของประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอวกาศในอนาคต”
คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับแนวหน้าพร้อม 6 เกณฑ์การตัดสินที่ครอบคลุม
การตัดสินรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา ประกอบด้วย
- ดร.โพธิวัฒน์ งามขจรวิวัฒน์ อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (RAE) คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
- น.ท.รศ.ดร. ปริญญา อนันตชัยศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีออส ออร์บิท จำกัด ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมอวกาศไทย ผู้อยู่เบื้องหลังดาวเทียม LOGSATS-2 ดาวเทียมดวงแรกของเอกชนไทยที่ประสบความสำเร็จในการติดต่อกลับโลกจากอวกาศเมื่อเดือนมกราคม 2568
- รองศาสตราจารย์ ดร. วรุธ ปานนักฆ้อง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและระบบการผลิต สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนำนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์
การตัดสินในรอบ Pitching Day ครั้งนี้ คณะกรรมการใช้เกณฑ์การประเมินที่ครอบคลุม 6 ด้าน ได้แก่
- ความคิดริเริ่มและนวัตกรรม (Innovation & Creativity) พิจารณาจากความใหม่ของไอเดีย ความแตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด ความสอดคล้องกับแนวโน้ม New Space Economy ทั้งในภาคต้นน้ำ (Upstream) และปลายน้ำ (Downstream) รวมถึงการใช้เทคโนโลยีอวกาศหรือนำองค์ความรู้มาประยุกต์ในเชิงสร้างสรรค์
- ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ (Business Feasibility) ประเมินโมเดลธุรกิจที่ชัดเจน ครอบคลุม Business Model Canvas และแหล่งรายได้ (Revenue Streams) มีแผนการเข้าสู่ตลาด (Go-to-Market Strategy) และแสดงศักยภาพในการสร้างรายได้หรือความยั่งยืน
- ศักยภาพด้านเทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้ (Technology Readiness & Application) พิจารณาความเข้าใจทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ความเป็นไปได้ในการพัฒนาและนำไปใช้จริง และความสามารถในการเชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานอวกาศที่มีอยู่
- ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม (Economic & Social Impact) มองถึงศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มในเศรษฐกิจอวกาศของไทยและโลก การเชื่อมโยงกับนโยบายระดับชาติ ความมั่นคง และความยั่งยืน (Sustainability) รวมถึงประโยชน์ต่อสังคม เช่น การศึกษา สิ่งแวดล้อม และการเข้าถึงข้อมูล
- ความสามารถของทีมและการนำเสนอ (Team & Pitching Skill) ประเมินความหลากหลายของทักษะในทีมที่ครอบคลุมทั้งด้านเทคนิคและธุรกิจ ความชัดเจนและน่าสนใจของการนำเสนอ การสื่อสารตรงประเด็น และความสามารถในการตอบคำถามกรรมการได้อย่างมีเหตุผลพร้อมข้อมูลสนับสนุน
- ความสอดคล้องกับโจทย์การแข่งขัน (Alignment with Competition Theme) พิจารณาการเลือกหัวข้อที่ตรงตามกำหนด (Upstream หรือ Downstream) การเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ “New Space Economy” และการตอบโจทย์การนำอวกาศมาสร้างประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
แนวคิดธุรกิจที่หลากหลาย สะท้อนศักยภาพเยาวชนไทย
ทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้นำเสนอแนวคิดธุรกิจที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งภาคต้นน้ำและปลายน้ำของอุตสาหกรรมอวกาศ โดย ทีม Nong Jeng Nong Jeng (น้องเจ๋งน้องเจ๋ง) คว้ารางวัลชนะเลิศ ด้วยแผนธุรกิจที่นำดาวเทียม SAR (Synthetic Aperture Radar) และ ดาวเทียม LEO (Low Earth Orbit) มาผสานกับ AI (Artificial Intelligence) ช่วยเกษตรกรวิเคราะห์น้ำและดิน ตลอดจนการเติบโตของพืชไร่ในแปลงเกษตรของตนเอง โดยมี Skyleaf แพลตฟอร์มบริการที่นำเทคโนโลยีมาจัดการให้ใช้งานได้ง่าย ลดภาระของเกษตรกร ในรูปแบบ Subscription ที่ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มผลผลิต ด้วยระบบการตรวจสอบสุขภาพพืช และการวางแผนการใช้ที่ดินได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังเชื่อมต่อ stakeholder เช่นผู้ให้บริการด้านการเกษตรต่าง เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ Ecosystem ของอุตสาหกรรมเกษตรไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมี โครงการที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น โครงการ Urban Subsidence แพลตฟอร์มเฝ้าระวังและพยากรณ์ดินทรุดอัจฉริยะ โดยดึงข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 และข้อมูลเสริม เช่น น้ำบาดาล การก่อสร้างและอื่นๆ มาวิเคราะห์ด้วยโมเดล Deep Learning (Graph Neural Network: GNN) เพื่อจำลองและคาดการณ์การทรุดตัวของพื้นที่เสี่ยงได้อย่างแม่นยำพร้อมแสดงผลแบบ Interactive Dashboard จากทีม Bitflow ที่ได้รับรางวัลที่ 2 และ โครงการ Space Power Distribution Satellite การพัฒนาเทคโนโลยีส่งพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ผ่าน Microwave Transmission ไปยังดาวเทียมอื่นในระดับวงโคจรต่ำ (LEO) ทำให้ดาวเทียมรุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และสามารถรับพลังงานต่อเนื่องได้ถึงแม้ไม่มีแสงส่องถึง จากทีม 67 Mustard mango ซึ่งแนวคิดต่างๆ เหล่านี้สะท้อนถึงความเข้าใจในบริบทของประเทศไทยและความต้องการของสังคม พร้อมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศที่ทันสมัยเพื่อแก้ปัญหาและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
บริบทอุตสาหกรรมอวกาศของไทยและการต่อยอดสู่ประชาคมอวกาศไทย
ประเทศไทยกำลังพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นแต่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคปลายน้ำ เช่น การสื่อสารผ่านดาวเทียม การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้ระบบกำหนด ตำแหน่งบนพื้นโลก (GPS) ผู้เชี่ยวชาญมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะกลายเป็น “ศูนย์กลางอวกาศ” ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยอาศัยแรงงานที่มีคุณภาพ ฐานเทคโนโลยีที่มีอยู่ และเครือข่ายความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอุตสาหกรรมอวกาศโลกคาดว่าจะเติบโตในอัตรา 9 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดย World Economic Forum มองว่าอุตสาหกรรมนี้อาจมีขนาดเทียบเท่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคตอันใกล้ โครงการ Space Quest 2025 จึงไม่ได้เป็นเพียงการประกวดแผนธุรกิจทั่วไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศของไทย การปลูกฝังจิตสำนึกและพัฒนาทักษะให้กับเยาวชนรุ่นใหม่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจอวกาศในทศวรรษหน้า
ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการได้ทาง Facebook: NT Space Quest