ความสำเร็จครั้งสำคัญของภารกิจฉางเอ๋อ 6 (Chang’e-6) ของจีน ที่สามารถเก็บตัวอย่างจากด้านไกลของดวงจันทร์ได้มากถึง 1,935 กรัม ได้เปิดศักราชใหม่แห่งการสำรวจอวกาศห้วงลึกของจีนอย่างเต็มตัว โดยจีนได้วางแผนภารกิจที่น่าตื่นเต้นอีกมากมายในอนาคตอันใกล้นี้
ก้าวต่อไปที่สำคัญคือภารกิจเทียนเวิ่น 2 (Tianwen-2) ที่มีกำหนดเปิดตัวในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเก็บตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ที่จีนกำลังมุ่งมั่นดำเนินการ
สำหรับการสำรวจดวงจันทร์อย่างต่อเนื่อง จีนเตรียมส่งยานฉางเอ๋อ 7 (Chang’e-7) ไปยังขั้วใต้ของดวงจันทร์ โดยมีเป้าหมายหลักในการสำรวจบริเวณปล่องภูเขาไฟแช็คเคิลตัน (Shackleton Crater) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าอาจมีน้ำแข็งสะสมอยู่ ต่อเนื่องด้วยภารกิจฉางเอ๋อ 8 (Chang’e-8) ในปี พ.ศ. 2571 (ค.ศ. 2028) ซึ่งมีความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม และเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยขณะนี้มีนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกกว่า 30 รายได้แสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการเข้าร่วมภารกิจนี้แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น จีนยังได้วางแผนสำหรับภารกิจสำรวจดาวเคราะห์ที่ไกลออกไป โดยมีภารกิจเทียนเวิ่น 3 (Tianwen-3) และเทียนเวิ่น 4 (Tianwen-4) ที่คาดว่าจะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) โดยมีเป้าหมายเพื่อเก็บตัวอย่างจากดาวอังคาร (Mars) และบินสำรวจดาวพฤหัสบดี (Jupiter) ตามลำดับ
นอกเหนือจากภารกิจสำรวจของตนเองแล้ว จีนยังให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการสถานีวิจัยดวงจันทร์นานาชาติ (International Lunar Research Station : ILRS) ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนในการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านอวกาศร่วมกับประชาคมโลก
ความก้าวหน้าเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของจีนในการเป็นผู้นำด้านการสำรวจอวกาศ และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการทำความเข้าใจจักรวาลและทรัพยากรที่มีอยู่นอกโลกของเรา
