• เกี่ยวกับเวิร์ดเพรส
    • WordPress.org
    • เอกสารประกอบ
    • Learn WordPress
    • สนับสนุน
    • ผลตอบรับ
  • Log In
Skip to content

SPACEMAN

มนุษย์อวกาศ​ พาท่องโลกดาราศาสตร์และอวกาศ

Primary Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าวอวกาศ
  • ระบบสุริยะ
    • ระบบสุริยะของเรา
    • ดวงอาทิตย์
    • ดวงจันทร์
    • ดาวพุธ
    • ดาวศุกร์
    • โลก
    • ดาวอังคาร
    • ดาวพฤหัสบดี
    • ดาวเสาร์
    • ดาวยูเรนัส
    • ดาวเนปจูน
    • ดาวเคราะห์แคระ
  • นักบินอวกาศและนักดาราศาสตร์
    • นักบินอวกาศ
    • นักดาราศาสตร์
    • ตำนานวงการอวกาศ
    • คนไทยในวงการอวกาศ
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
    • ดาราศาสตร์
    • โครงการอะพอลโล
    • เทคโนโลยีอวกาศ
    • หน่วยงานอวกาศ
    • เทคโนโลยีจรวด
    • ความรู้รอบตัว
  • ติดต่อมนุษย์อวกาศ
Follow us
  • Home
  • สารานุกรมดาราศาสตร์
  • ปรากฏการณ์ฝนดาวตกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ปี ค.ศ. 1833
  • ความรู้รอบตัว
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

ปรากฏการณ์ฝนดาวตกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ปี ค.ศ. 1833

มนุษย์อวกาศ 3 มกราคม 2025
Leonids-1833

ย้อนกลับไปในคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1833 ชาวอเมริกาเหนือได้เป็นสักขีพยานของปรากฏการณ์ฝนดาวตกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยอัตราการตกของดาวตกที่ถี่มาก เฉลี่ยแล้วมากถึง 100,000 ดวงต่อชั่วโมง!

ลองจินตนาการถึงภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือทวีปอเมริกาเหนือ ที่ถูกแต่งแต้มด้วยเส้นแสงสว่างนับพันนับหมื่นพาดผ่าน ราวกับสายฝนแห่งดวงดาวที่โปรยปรายลงมา ความงดงามตระการตานี้ กลับสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนในยุคนั้นเป็นอย่างมาก หลายคนเชื่อว่านี่คือสัญญาณเตือนถึงวันสิ้นโลก ความหวาดกลัวและความตื่นเต้นปะปนกันไป จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักวาดภาพพิมพ์แกะไม้ อดอล์ฟ วอลมี (Adolf Vollmy) สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกที่บันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ไว้

เหตุการณ์ครั้งนั้น คือ ฝนดาวตกเลโอนิดส์ (Leonids meteor shower) ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยมีต้นกำเนิดมาจากเศษซากของดาวหางเทมเพล-ทัตเทิล (Tempel-Tuttle) ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ เมื่อโลกโคจรผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีเศษซากเหล่านี้ เศษซากดังกล่าวจะเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลก เกิดการเผาไหม้ มองเห็นเป็นแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า “ฝนดาวตก” นั่นเอง

แม้ในปัจจุบัน ปรากฏการณ์ฝนดาวตกในปี ค.ศ. 1833 ก็ยังคงเป็นที่กล่าวขวัญถึง ทั้งในแง่ของความสวยงามอันน่าทึ่ง และความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างมนุษย์กับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่แฝงไปด้วยทั้งความหวาดกลัว ความพิศวง และความงดงาม


ข้อมูลอ้างอิง : Wikipedia
– Leonids-1833

จำนวนเข้าชม: 228

Continue Reading

Previous: ซากจรวดหนัก 500 กิโลกรัม ตกในเคนยา ภัยจากขยะอวกาศใกล้ตัวกว่าที่คิด?
Next: ลาเนียเคอา (Laniakea) สรวงสวรรค์อันไพศาล

เรื่องน่าอ่าน

25 Brightest Stars
  • ความรู้รอบตัว
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

ภาพถ่าย 25 ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ฝีมือคนไทย โดย อ.ตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์

มนุษย์อวกาศ 12 มิถุนายน 2025
Actiwatch Spectrum nasa
  • ความรู้รอบตัว
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

แอคติวอทช์ สเปกตรัม อุปกรณ์คู่ใจนักบินอวกาศในการติดตามการนอนหลับ

มนุษย์อวกาศ 11 มิถุนายน 2025
Aerial view of the Vehicle Assembly Building
  • ความรู้รอบตัว
  • สารานุกรมดาราศาสตร์

ย้อนรอย 60 ปี อาคารประกอบยานอวกาศ สู่บ้านของจรวดแซตเทิร์น 5

มนุษย์อวกาศ 11 มิถุนายน 2025

เรื่องยอดนิยม

  • nasa_technology9 เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่มาจากการสำรวจอวกาศ (3,925)
  • Buzz-Aldrinบัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) นักบินอวกาศนาซา (3,298)
  • CNSA-Moonจีนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอวกาศห้วงลึก หลังจากเก็บตัวอย่างด้านไกลของดวงจันทร์ (2,813)
  • Lunar-soil-Change5ดินดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ในงาน อว. แฟร์ 22-28 ก.ค. 67 (2,763)
  • Poralis-DawnSpaceX กำหนดปล่อยภารกิจ Polaris Dawn จะมีการเดินอวกาศ (Spacewalk) โดยเอกชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (2,626)
Copyright © All rights reserved. | MoreNews by AF themes.